คำนำ
Introduction
คำนำจากทีมงานตาณฑวะ
คำนำ
พื้นฐานแห่งอัษฏาวกระคีตาคือการตระหนักรู้สัจธรรมที่ว่า มีเพียงอาตมันเท่านั้นที่เป็นจริง สิ่งอื่นนอกเหนือจากอาตมันนั้นเป็นเพียงภาพมายาที่การปรากฎ การจำแนกแยกแยะว่ามีอาตมันและสิ่งที่มิใช่อาตมันนั้นก่อให้เกิดพันธะ ดังนั้น, พันธะจึงเกิดจากความหลงผิดหรืออวิชชา การบรรลุถึงธรรมชาติที่แท้จริงหรืออาตมันจะเกิดขึ้นทันทีที่อวิชชาได้หายไป เปรียบเหมือนฝุ่นที่ปลิวหายและแสงแห่งอรุณของการบรรลุธรรมก็สาดส่อง
ผู้คนมีความทุกข์เพราะไม่ตระหนักถึงอิสระที่มีอยู่ในตนเองและคิดว่าตัวเองมีพันธะจึงก่อให้เกิดทุกข์ เปรียบเหมือนคนใส่สร้อยคอทองคำที่ลืมไปว่าเขาสวมใส่สร้อยอยู่ เขาจึงเป็นทุกข์เพราะโหยหาที่จะได้สร้อยคืนมา จวบจนมีใครอีกคนได้เตือนว่า สร้อยทองนั้นสวมอยู่ที่คอของเขา เป็นของเขา มิได้หายไปไหน ทันทีที่เขาตระหนักรู้ ความทุกข์ของเขาก็จะหายไปในทันที
ท่านอัษฏาวกระอธิบายได้อย่างง่ายที่สุดว่า “เมื่อท่านคิดว่าท่านเป็นอิสระ ท่านก็เป็นอิสระ เมื่อท่านคิดว่าท่านมีพันธะ ท่านก็มีพันธะ” ในความเป็นจริงแล้วอาตมันนั้นเป็นอิสระ และอิสระนั้นไม่ต้องไขว่คว้า เราเพียงแต่ตระหนักถึงอาตมัน แล้วเราก็จะหลุดพ้นเป็นอิสระโดยพลัน อุปสรรคทั่วไปของการตระหนักรู้ถึงอาตมันคือการงานอาชีพที่เรารับผิดชอบอยู่กับโลก มันนำเราไปสู่ความขัดแย้งในผลประโยชน์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และผลที่ตามมาคือ ความบาดหมาง อิจฉาริษยา พยาบาท ล้างแค้น และการทุจริตคิดมิชอบ สิ่งเหล่านี้ได้สร้างกำแพงสมมุติขึ้นระหว่างคน ทำให้เกิดความแบ่งแยกไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน การทำลายกำแพงนี้จะต้องใช้ความพยายามฝึกฝนทัศนคติเชิงบวก และฝึกการปล่อยวาง โดยใช้ความคุณงามความดี การให้อภัย ความจริงใจ และความรัก อันเป็นสัจธรรม ทั้งหมดนี้เป็นการฝึกฝนที่กระทำภายใน มิได้เกี่ยวข้องกับสิ่งภายนอกเลย ไม่ต้องลงทุนและให้ผลเป็นความสูงส่งของจิตใจที่ถูกยกระดับขึ้น
อัษฏาวกระคีตา ประกอบด้วย บทสนทนาระหว่างคุรุอัษฎาวกระ และ กษัตริย์ชนกผู้เป็นศิษย์ จำนวน 18 บท บทที่ 1 การแสดงธรรมเพื่อประจักษ์ถึงตัวตนอันแท้จริง เริ่มจากกษัตริย์ชนกถามปราชญ์อัษฏาวกระ ในการบรรลุถึงความรู้, การปล่อยวาง, และการปลดปล่อย และคุรุได้แสดงธรรมนั้นแก่เขา บทที่ 2 ความปิติเมื่อบรรลุธรรม กษัตริย์ชนกบรรลุธรรมที่คุรุแสดงแก่เขา เขาเกิดความปิติจึงอธิบายถึงความปิติและความประหลาดใจในสภาวะของการบรรลุธรรมนี้ บทที่ 3 บททดสอบการบรรลุธรรม อัษฏาวกระยินดีกับการบรรลุธรรมของศิษย์ แต่คุรุเห็นบางสิ่งในสภาวะนั้น คุรุจึงดับกระแสแห่งไฟของการยึดติดความปิติหรือความพึงพอใจนั้น บทที่ 4 สดุดีการบรรลุธรรม อัษฏาวกระกล่าวว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงดำรงอยู่บนบรมสุขนั้น บทที่ 5 หนทางทั้งสี่สู่นิพพาน อัษฏาวกระได้แสดงหนทางอันรวบรัดทั้งสี่เพื่อก้าวสู่ “นิพพาน” บทที่ 6 ความรู้ที่สูงกว่า อัษฏาวกระกล่าวถึงความรู้ในขั้นที่สูงขึ้นไป เน้นย้ำความลวงของโลกมายาทั้งความอิ่มเอมและความขาดแคลน บทที่ 7 ศิษย์ผู้บรรลุธรรม กษัตริย์ชนกอธิบายถึงภาวะของการบรรลุธรรม บทที่ 8 พันธะและการหลุดพ้น อัษฏาวกระได้แนะนำศิษย์ในรายละเอียดของพันธะและการหลุดพ้นในขั้นที่สูงกว่า บทที่ 9 การปล่อยวาง อัษฏาวกระได้อธิบายถึงวิธีการปล่อยวาง บทที่ 10 ภาวะแห่งความสงบเงียบ อัษฏาวกระชี้ให้เห็นผลจากการกระทำในอดีต และหลุดพ้นวัฏสงสาร บทที่ 11 ปัญญา อัษฏาวกระได้อธิบายถึงสภาวะที่สิ้นความปรารถนา บทที่ 12 ศิษย์ผู้บรรลุธรรม กษัตริย์ชนกอธิบายภาวะของการบรรลุธรรมสูงสุด บทที่ 13 ความสุข กษัตริย์ชนกได้ถูกแนะนำจากคุรุให้ “จงเป็นสุข” แสดงว่าเขาเป็นเช่นนั้นจริง บทที่ 14 ความสงบ กษัตริย์ชนกสรุปสภาวะอันสูงส่งของเขา บทที่ 15 ความรู้แห่งอาตมัน แม้จะน่าประทับใจแต่การสอนยังไม่ตลอดรอดฝั่ง อัษฏาวกระได้ชี้ให้เห็นถึงความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่ของอาตมัน บทที่ 16 คำแนะนำพิเศษ อัษฏาวกระชี้โทษของความพยายามอันไร้ประโยชน์ของความรู้ บทที่ 17 ผู้รู้ที่แท้จริง อัษฏาวกระอธิบายถึงธรรมชาติของผู้ที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง บทที่ 18 ศานติ อัษฏาวกระกล่าวถึง 100 โศลกของความไม่เป็นคู่อันบริสุทธิ์ บทที่ 19 สถิตในอาตมัน กษัตริย์ชนกผู้เป็นศิษย์ได้สดับฟังคำสอนเรื่องบรมสุขในอาตมัน และได้ตระหนักรู้ในสิ่งนั้น บทที่ 20 การหลุดพ้นในชีวิต กษัตริย์ชนกผู้เป็นศิษย์ได้อธิบาย สภาวะของวิญญาณที่เป็นอิสระซึ่งสถิตอยู่ในอาตมัน แม้ขณะที่ยังมีชีวิต
ทีมงานตาณฑวะหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “อภิปรัชญาของการดำรงอยู่และความหมายของการหลุดพ้นในขณะที่ยังมีชีวิต” ของปราชญ์อัษฏาวกระ ซึ่งได้ปรากฏแก่สายตาของท่านบนเวบไซต์นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตหรือเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อชีวิตของท่านผู้อ่าน (หรือผู้ฟัง) ไม่มากก็น้อย ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามผลงานของเรา
ทีมงานตาณฑวะ