ปรัชญานยายะ
ปรัชญานยายะ

นายายะ แปลว่า “ความยุติธรรม กฎ วิธีการ หรือ การตัดสิน”
นยายะ (न्याय) เป็นคำสันสกฤต แปลว่า “ยุติธรรม หรือ เสมอภาค” หรือ หมายถึง นำไปสู่ธรรมคือความแท้จริง คือการหาเหตุผลเพื่อพิสูจน์ความจริง จัดเป็นปรัชญาสัจจนิยมฝ่ายตรรก (Logical Realism) คือเชื่อถือตามหลักตรรกศาสตร์ว่า ความจริงแท้ฝ่ายรูปธรรม (วัตถุ) และ ฝ่ายนามธรรม (จิต) เป็นอิสระต่อกัน กล่าวกันว่า นยายะมีความเป็นตรรกวิทยามากกว่าจะเป็นปรัชญา ปรัชญานยายะมีชื่ออื่นอีก คือ
- ตรรกศาสตร์ (การให้เหตุผล)
- ประมาณศาสตร์ (ตรรกศาสตร์และญาณวิทยา)
- เหตุวิทยา (ว่าด้วยเหตุ)
- วาทวิทยา (ศิลปะการโต้วาที)
- อานวีกษิกี (การศึกษาเชิงวิจารณ์)
มหาฤๅษีเคาตมะ (โคตมะ) เป็นผู้ก่อตั้งสำนักปรัชญานี้ เมื่อราวต้นพุทธกาล บางตำรากล่าวว่าท่านเคาตมะมีชีวิตอยู่หลังพระพุทธเจ้า (พุทธ) และมหาวีระ (เชน) ประมาณ 2 ศตวรรษ ท่านเคาตมะเลื่อมใสในพระเวทและศาสนาพราหมณ์ ขณะนั้นศาสนาพราหมณ์ถูกโจมตีอย่างหนักจากนักปราชญ์พุทธและเชนด้วยการใช้เหตุผลอ้างคัดค้านหักล้างความเชื่อในศาสนาพรหมณ์ ท่านจึงได้คิดค้นกฎเกณฑ์ของเหตุผลที่เหมาะสมเพื่ออธิบายระบบความคิดในศาสนาพราหมณ์ได้ สำนักนยายะจึงค้นคว้าทางตรรกวิทยาและญาณปรัชญาต่อมา นยายะจึงแปลว่าตรรกวิทยาด้วย [1]
อ้างอิงจาก ตำราปรัชญาอินเดียสมัยโบราณ โดย รศ.นงเยาว์ ชาญณรงค์ ; [1] อ้างอิงจาก รายงานผลการวิจับปรัชญาอินเดีย โดย กีรติ บุญเจือ
นยายะเป็น "Atomic Pluralism" ถือว่าอะตอมเป็นมูลกำเนิดของโลกและสรรพสิ่งในโลก
แนวคิด
นยายะว่าด้วยทฤษฎีแห่งความรู้ หรือ ญาณ เป็นกลาง ต้องอาศัยปัจจัยภายนอก เช่น ประสาท หรืออายตนะหรือวัตถุที่รู้ นยายะถือว่า “ความรู้เป็นสมบัติจรของจิต” ไม่อยู่ประจำในจิต ขณะที่หลับสนิทไม่มีฝัน หรือขณะจิตเป็นสมาธิ หรือจิตที่เข้าถึงโมกษะแล้ว จะไม่มีความรู้สึกใดๆ เป็นจิตว่าง ความรู้ของนยายะสามารถได้จาก
- ประจักษ์ (ความรู้เกิดจากประสาทสัมผัส)
- อนุมาน (ความรู้เกิดภายหลังความรู้ขั้นประจักษ์)
- อุปมาน (ความรู้เกิดจากการเทียบเคียง)
- ศัพท (ความรู้เกิดจากความเข้าใจ คำบอกเล่า ตำราที่เชื่อถือได้)
หลักการ
หลักการ หรือประเมยะ คือผลของประมาณทั้ง 4 เป็นความจริง คือ
- โลก (มีอยู่จริง เกิดจากธาตุทั้ง 4 ผสมกัน เป็นนิรันดร)
- อาตมัน (เป็นธาตุทิพย์คงที่ไม่สูญสลายไปตามร่างกาย อาตมันเป็นผู้รับรู้ รับผลกรรม และเวียนว่ายตายเกิด)
- โมกษะ (จุดหมายสูงสุด คืออิสระ หลุดพ้นจากทุกข์ เมื่อถึงโมกษะอาตมันจะกลับสู่ธรรมชาติดั้งเดิมของตน ไม่ต้องเวีนยว่ายตายเกิดอีก)
- พระเจ้า (พระเจ้าเป็นเหตุของโลก เป็นผู้สร้าง รักษา ทำลาย นยายะเชื่อว่า พระเจ้า ธาตุทั้ง 4 อากาศ เทศะ กาละ มนัส อัตตา เป็นนิรันดร์ ไม่มีใครสร้าง มีมาพร้อมกัน)
ข้อปฏิบัติ
ข้อปฏิบัติเพื่อเข้าถึงโมกษะอันเป็นจุดหมายสูงสุดของชีวิต คือ
- ความรู้ทางอ้อม 2 ประการ คือ
- การแสวงหาความรู้อันถูกต้องจากอาจารย์ (หรือคัมภีร์)
- คิดทบทวนใคร่ครวญสิ่งที่ศึกษา
- ความรู้ทางตรง 1 ประการ คือ
- ทำสมาธิกับฝึกปฏิบัติโยคะ