บทที่ 12

ศิษย์ผู้บรรลุธรรม

กษัตริย์ชนกอธิบายภาวะของการบรรลุธรรมสูงสุด

กษัตริย์ชนก กล่าว :

8 โศลกของบทนี้

กษัตริย์ชนก ผู้เป็นศิษย์ อธิบายภาวะของการบรรลุธรรมสูงสุดของเขา

12.1

เริ่มแรก ข้าพเจ้าแยกออกจากการกระทำทางกาย แล้วขยายไปถึงวาจา และ ความคิด ข้าพเจ้าปฏิบัติเช่นนั้นอย่างแท้จริง

(อธิบายเพิ่มเติม ในชั้นต้น กษัตริย์ชนกได้แยกจิตออกจาก กาย วาจา และความคิด ซึ่งทั้งสามสิ่งนี้อยู่ในระดับชั้นของความสัมพันธ์ กษัตริย์ชนกไม่มีการกระทำใดๆ ทาง กาย วาจา และใจ เขาสามารถควบคุมอุปสรรคที่เข้าใจได้ยากยิ่ง)

(ในชั้นนี้เป็นการ “ก้าวข้ามความสัมพันธ์”)

12.2

“อาตมัน” มิใช่วัตถุที่หยั่งรู้ได้ ข้าพเจ้าจึงแยกออกจากสัมผัสภายนอกใดๆ ในจักรวาล จิตของข้าพเจ้าเป็นอิสระจากสิ่งรบกวน ข้าพเจ้าปฏิบัติเช่นนั้นอย่างแท้จริง

(อธิบายเพิ่มเติม การหยั่งรู้นั้นเป็นไปได้ในชั้นของความสัมพันธ์ อาตมันคือภาวะสมบูรณ์ จึงไม่สามารถหยั่งรู้ได้ และมิใช่วัตถุที่หยั่งรู้ได้)

(ในชั้นนี้เป็นการ “ก้าวข้ามความสัมพันธ์ และสิ่งรบกวนภายนอก”)

12.3

ข้าพเจ้าพยายามมุ่งไปยังเป้าหมาย ในขณะที่มีสิ่งรบกวนภายในจิตใจ เป็นความซับซ้อนของการยึดติดกับตัวตน ข้าพเจ้าถือว่าเป็นกฎที่ต้องกระทำ และปฏิบัติเช่นนั้นอย่างแท้จริง

(การยึดติดกับตัวตนในที่นี้ อธิบายว่า กาย จิต อัตตา เป็นสิ่งอันซับซ้อนที่ทับถมอยู่เป็นบุคคล เมื่อแยกจิตออกมา บุคคลจะต้องใช้ความพยายามที่จะตั้งสมาธิไปที่จิต)

(กฎที่ต้องปฏิบัติเพื่อให้เกิดสมาธิ ในที่นี้อธิบายได้ว่า เมื่อบุคคลยังไม่เข้าสู่ภาวะสมบูรณ์ ยังถูกครอบงำด้วยอวิชชาจะต้องใช้กฎที่ต้องปฏิบัติเพื่อเข้าสู่สมาธิ และกฎนี้ไม่จำเป็นสำหรับผู้ที่เข้าสู่ภาวะสมบูรณ์แล้ว)

(ในชั้นนี้เป็นการ “ก้าวข้ามความซับซ้อน หรือสิ่งรบกวนภายใน”)

12.4

ข้าพเจ้าดำรงอยู่ในภาวะอันปราศจากความรู้สึกของ การปฏิเสธ และการยอมรับ และไม่มีความสนุกสนานและเสียใจ เช่นนั้นแล้ว โอ! พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าอยู่ในสภาวะนั้น

(สภาวะนั้น หมายถึง ภาวะสมบูรณ์และแผ่ซ่านไปทั่ว ไร้สิ่งที่เป็นคู่ตรงกันข้าม ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดที่จะได้รับหรือสูญเสีย)

(ในชั้นนี้เป็น “ภาวะสมบูรณ์ และแผ่ซ่านไปทั่วทั้งหมด”)

12.5

ข้าพเจ้าค้นพบว่า ภาวะ (อาศรม 4) หรือ อภาวะแห่งชีวิต, สมาธิ, การปล่อยวาง และการค้นหา นั้นเป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายอมรับในการค้นพบนั้นอย่างแท้จริง

(อธิบายเพิ่มเติม ภาวะ อภาวะ สมาธิ การปล่อยวาง นั้นเป็นเรื่องของ กายและจิต แต่ อาตมันทำให้ทั้งกายและจิตโปร่งใส สิ่งที่กล่าวถึงข้างต้นจึงกลายเป็นสิ่งรบกวนต่อกษัตริย์ชนกต่อการเข้าถึงอาตมัน)

(ในชั้นนี้เป็นการ “ก้าวข้ามชีวิต”)

12.6

กรรม (การกระทำ) หรือ อกรรม (การไม่กระทำ) ที่เกิดจากอัตตา นั้นเป็นอวิชชา ข้าพเจ้าตระหนักรู้สิ่งนี้เป็นอย่างดี ดังนั้น ข้าพเจ้าดำรงอยู่ในความรู้นี้อย่างแท้จริง

(ในอาตมัน ไม่มีคำถามของกรรม [การกระทำ] หรือ อกรรม [การไม่กระทำ] ใดๆ)

(ในชั้นนี้เป็นสภาวะอันไร้คำถามต่อ “กรรม” และ “อกรรม”)

12.7

อาตมันเป็นสิ่งที่ไม่อาจเข้าถึงด้วยความคิด การคิดเพื่อเข้าถึงอาตมันจะนำไปสู่ความความคิดอีกแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้น, ข้าพเจ้าจึงล้มเลิกความคิด ข้าพเจ้าปฏิบัติเช่นนั้นอย่างแท้จริง

(อธิบายเพิ่มเติม อาตมันมิใช่วัถตุที่อาจเข้าถึงได้ด้วยความคิด แต่อยู่เหนือไปกว่านั้น การทำสมาธิเพื่อเข้าถึงอาตมันเป็นเพียงการสร้างรูปแบบหนึ่งของจิต ซึ่งมิใช่อาตมัน บุคคลจะต้องก้าวข้ามข้อจำกัดของจิต เพื่อการตระหนักถึงอาตมัน)

(การล้มเลิกความคิด หมายถึง การเป็นพรหมันด้วยตัวเอง (ตนเองกลายเป็นพรหมัน) เป็นสภาวะที่สูงกว่าการทำสมาธิหรือการใคร่ครวญ มิใช่สภาวะที่ต่ำกว่า)

(ในชั้นนี้เป็น “การก้าวข้ามความคิด”)

12.8

ผู้ที่ควรค่าแก่การเทิดทูน คือ ผู้ที่บรรลุสิ่งนี้ ผู้ที่ควรค่าแก่การเทิดทูน คือ ผู้ที่เป็นเช่นนี้โดยธรรมชาติ

(อธิบายเพิ่มเติม ผู้ที่ควรค่าแก่การเทิดทูน ในที่นี้หมายถึง ผู้ที่ตระหนักรู้ “อาตมัน” ผ่านศรัทธา และก้าวข้ามการกระทำทั้งปวงทั้งกายและใจ)

(คำว่า “ผู้ที่ควรค่าแก่การเทิดทูน” ชี้ให้เห็นสภาวะที่สูงกว่า คือภาวะสมบูรณ์ ที่เป็นธรรมชาติของผู้นั้น)

Ashtavakra Kita (in thai) by Tandhava

Get carried away?

ความรู้เรื่องอัชฌตวกระคีตาเพิ่มเติม

บทก่อนหน้า

previous

กลับไปสารบัญ

index

บทถัดไป

next