ดาวศุกร์
เหตุผลที่นักพยากรณ์ต้องรู้เรื่องดาว
สวัสดีค่ะ พบกับทีมงานตาณฑวะ ในรายการ “คุยเรื่องดาว เล่าเรื่องดวง” วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับดาวศุกร์กันค่ะ ความรู้เรื่องดาวมีความสำคัญในศาสตร์การพยากรณ์ เพราะรายละเอียดต่างๆ ของดวงดาวจะทำให้นักพยากรณ์มีความเข้าใจนิสัยของดวงดาว เช่น บุคลิก, ลักษณะ, ความคิดอ่าน, ความเห็น, ความต้องการ, เรื่อยไปจนถึงอารมณ์ความรู้สึก และประสาทสัมผัสของดวงดาว เป็นต้น ยิ่งเรามีความเข้าใจในดวงดาวมาก การพยากรณ์ตามดวงดาวก็จะถูกต้องแม่นยำมากตามไปด้วย
ถ้าไม่นับดวงจันทร์ซึ่งเป็นดาวบริวารของโลกแล้ว ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์ที่ส่องสว่างที่สุดเมื่อมองจากโลกของเรา อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 2 ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์หิน เช่นเดียวกับโลก ในทางโหราศาสตร์จัดเป็นหนึ่งในดาวนพเคราะห์ที่มีความสำคัญ เพราะเป็นดาวที่เป็นตัวแทนของความรัก ความปรารถนา และเงินทอง ตำราโหราศาสตร์ไทยกล่าวไว้ว่า “กิเลสสมบัติทายศุกร์” ถ้าดวงชะตาใดมีศุกร์ดี เจ้าชะตาย่อมมีความรักที่สมหวัง มีความสามารถในการจัดการ วางแผนการเงิน ว่ากันว่า “หากดาวศุกร์ดี รักใครชอบใคร เมื่อหมายปองแล้วมักไม่ผิดหวัง” ดาวศุกร์จึงเป็นดวงดาวที่น่าสนใจ อีกทั้งโหราจารย์กล่าวไว้ว่า “เมื่อมีผู้ใดมาขอตรวจดวงชะตาด้วยเป็นทุกข์ พึงดูศุกร์จรว่าตกในภพใดเถิด ทำนายแล้วแม่นยำนัก” เมื่อรู้ถึงความสำคัญของดาวศุกร์กันแล้ว เราจะมาดูรายละเอียดของดาวศุกร์กันต่อเลยค่ะ
Let's join our channel
ดาวศุกร์ในทางวิทยาศาสตร์
- ชื่อภาษาอังกฤษของดาวศุกร์คือ “Venus” เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 2 เรามักมองเห็นดาวศุกร์ในตอนหัวค่ำจะอยู่บนท้องฟ้าทางทิศตะวันตก มีสีฟ้าสุกใส และ ในตอนเช้ามืดจะเห็นอยู่ทางทิศตะวันออก ตอนหัวค่ำเราเรียกดาวศุกร์ว่า “ดาวประจำเมือง” ส่วนตอนรุ่งเช้า เราเรียกว่า “ดาวประกายพรึก”
- ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์หิน เช่นเดียวกับ ดาวพุธ โลก และดาวอังคาร ดาวศุกร์มีขนาดใหญ่พอๆ กับโลก และมีมวลใกล้เคียงกับโลกคือ คิดเป็น 81.5% ของมวลโลก จึงมักถูกเรียกว่าเป็น “น้องสาว” หรือ “ฝาแฝด” ของโลก
- ความแตกต่างที่สำคัญของดาวศุกร์กับโลกคือ ดาวศุกร์ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ 225 วัน ต่อ 1 รอบ แต่หมุนรอบตัวเอง 1 รอบใช้เวลาถึง 243 วัน (ใช้เวลาหมุนรอบตัวเองนานกว่าหมุนรอบดวงอาทิตย์) และดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะที่หมุนรอบตัวเองช้าที่สุด และหมุนรอบตัวเองในทิศทางตามเข็มนาฬิกาซึ่งแตกต่างไปจากดาวเคราะห์อื่นๆ ในระบบสุริยะ
- ความดันบรรยากาศบนดาวศุกร์ประมาณ 92 เท่าของโลก ประกอบด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นส่วนใหญ่ถึง 97% ชั้นบรรยากาศคาร์บอนไดออกไซด์ที่หนาแน่นนี้เองทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกอย่างรุนแรง ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยบนดาวศุกร์เท่ากับ 464 องศาเซลเซียส
- เหนือชั้นบรรยากาศเป็นเมฆหนาที่เต็มไปด้วยกรดซัลฟิวริกผสมกับน้ำ เมฆนี้เองที่สะท้อนและกระเจิงแสงจากดวงอาทิตย์ออกไปประมาณ 90% ดาวศุกร์จึงดูสว่างสุกใสอยู่เสมอ แต่ยานอวกาศที่ไปสำรวจดาวศุกร์ไม่สามารถถ่ายภาพพื้นผิวดาวโดยตรงได้ เพราะมีชั้นเมฆหนาทึบปกคลุมไว้
พระศุกร์ในทางคติไทย
- พระศุกร์ (เทวนาครี: शुक्रศุกฺร) เป็นเทวดานพเคราะห์ ถูกสร้างขึ้นมาจากพระศิวะ พระศิวะทรงนำโค (วัว) ๒๑ ตัว (บางตำราว่าสร้างจากวิทยาธร-เป็นมนุษย์กึ่งเทพที่มีวิชาอาคมและพลังญาณ) บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีฟ้าอ่อน ประพรมด้วยน้ำอมฤต แล้วเสกได้เป็นพระศุกร์ มีพระวรกายสีฟ้า ทรงเครื่องผนวชฤๅษี นุ่งห่มหนังเสือ สวมลูกประคำ ทรงเครื่องประดับเป็นเพชร แก้วไพลินและแก้วเพทาย ทรงโคอุสุภราช (วัว) เป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศเหนือ
- พระศุกร์ แสดงถึงอักษรวรรค สะ (ศ ษ ส ห ฬ ฮ) เรียกว่า อัชนาม (คนเกิดวันศุกร์ หรือคนที่มีดาวประจำตัวเป็นดาวศุกร์มักใช้อักษรเหล่านี้เป็นอักษรมงคล)
- พระศุกร์เป็นครูของอสูรทั้งหลาย จึงมักถูกเรียกขานกันว่า ศุกราจารย์, อสุราจารย์ หรืออสุรคุรุ
- ตามประเพณีนิยมวันศุกร์เป็นวันที่โบราณห้ามทำการเผา เพราะถือวันว่า “ปลงศพวันศุกร์ ให้ทุกข์กับคนเป็น” และอีกประการหนึ่ง ดาวศุกร์ท่านจัดไว้ในประเภทเทพยดาแห่งความสุขสมบูรณ์ จึงไม่ควรแก่การกระทำที่จะทำให้เกิดความโศกเศร้าอย่างเช่น การปลงศพ เป็นต้น
- ในไตรภูมิพระร่วง พระศุกร์มีวิมานลอยอยู่รอบเขาพระสุเมรุด้านทิศเหนือ วิมานมีขนาดใหญ่ ๑๓ โยชน์ รัศมีดังควันไฟ
- พระนามอื่นๆ ของพระศุกร์ดี เช่น พระภารควะ, พระแทตยาจารย์, พระแทตยมนตรี, พระกาพย์, พระศุภลักษณ์, พระกามบาล, พระมนัสวิน เป็นต้น
พระศุกร์ในทางคติฮินดู
- พระศุกร์ ในคติฮินดู มีพระนามเดิมว่า “ภารควะ” เป็นบุตรของฤๅษีภฤคุ กับพระนางอุศนัส (หรือพระนางกาพยมาตา) พระศุกร์เป็นสาวกเอกของพระศิวะ เป็นเทพฤๅษีมีรูปงาม
- ภารควะ (หรือพระศุกร์) ได้หลงรักกับนางอัปสรวิศวาจี และถอดจิตตามนางไป ต่อมานางอัปสรก็ทิ้งภารควะ ท่านจึงไปจุติเป็นเมล็ดข้าว และชาวนาได้นำข้าวไปถวายฤๅษีภฤคุ ภรรยาของฤๅษีภฤคุได้กินเข้าไป จึงตั้งครรภ์และคลอดบุตร ตั้งชื่อว่า “ฤๅษีอุศนัส” ส่วนนางอัปสรวิศวาจี ถูกฤๅษีนารทมุนีสาปให้กลายเป็นกวาง ต่อมากวางนั้นได้มาพบกับฤๅษีอุศนัสและมีบุตรด้วยกัน ในขณะนั้นดวงจิตของภารควะยังยึดติดในกาม และต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร
- ฝ่ายฤๅษีภฤคุที่เข้าฌานไปเป็นเวลานาน เมื่อตื่นขึ้นจากสมาธิ ก็พบร่างของบุตรตนที่ไม่มีชีวิต ท่านจึงไปพบพระยมในยมโลก เพื่อถามหาวิญญาณของบุตรตน แต่พระยมกล่าวว่าตอนนี้ภารควะได้ไปเกิดเป็นพราหมณ์และกำลังจะใช้กรรมหมดแล้ว ฤๅษีภฤคุจึงขอให้พระยมนำดวงจิตของภารควะคืนมา เมื่อดวงจิตกลับเข้าร่างเดิมแล้ว ภารควะก็เริ่มเบื่อหน่ายในโลกียะ และเริ่มบำเพ็ญตบะต่อพระศิวะ (อยู่หลายชาติ) จนกระทั่งพระศิวะทรงพอพระทัยและมอบพรให้ภารควะ พระศิวะทรงมอบนามใหม่ให้ว่า “ศุกรา” และทรงแต่งตั้งให้เป็นเทพประจำดาวศุกร์ และให้เป็นอาจารย์ของเหล่าอสูร แทตย์ ทานพ รากษส พระศิวะได้ให้พรแก่พระศุกร์หลายประการคือ ให้เป็นผู้ไม่มีวันแก่ชรา, ให้เป็นผู้มั่งคั่งในโภคทรัพย์สมบัติ, ให้เป็นผู้มีโชคลาภ, ให้เป็นผู้มีสติปัญญาญาณ, ให้มีความสามารถในวิชาต่างๆ คือ การต่อสู้ การปกครอง การแต่งโศลก กาพย์ ฉันท์ กวี, ให้มีมนตร์มายา, ให้มีอำนาจด้านความรักและความปรารถนาในโลก และยังได้รับมนตร์มฤตสัญชีวินี ซึ่งสามารถชุบชีวิตได้ นับว่าเป็นศิษย์โปรดของพระศิวะเลยทีเดียว
พระศุกร์ในทางคติโรมัน
- เมื่อเทียบกับความเชื่อทางตะวันตกแล้ว พระศุกร์เทียบได้กับ เทพีอะโฟรไดท์ (Aphrodite) ของกรีก หรือ เทพีวีนัส (Venus) ของโรมัน เป็นเทพีแห่งความรัก ความงามและความปรารถนา สามารถสะกดเทพและมนุษย์ทั้งปวงให้ลุ่มหลง อีกทั้งสามารถลบสติปัญญาของผู้ชาญฉลาดให้ตกอยู่ในความโฉดเขลาได้
- อะโฟรไดท์เป็นธิดาของซูส (Zeus) หรือบางตำนานเล่าว่าอะโฟรไดท์กำเนิดเมื่อเทพโครนอส (Chronos) ตัดอวัยวะเพศของยูเรนัส (Uranos) แล้วโยนลงทะเล จากนั้นจึงถือกำเนิดจากฟองสมุทร และชื่อของเทพีอะโฟรไดท์มีรากศัพท์มาจากคำว่า Aphros ในภาษากรีกแปลว่าฟอง เมื่อเทวีอะโฟรไดท์ถูกคลื่นซัดไปติดที่เกาะไซพรัส ฤดูเทวีผู้รักษาทวารแห่งเขาโอลิมปัสได้ลงมารับ และพาเทพีอะโฟรไดท์ขึ้นไปยังเทพสภา เทพทุกองค์ในที่นั้นต่างตะลึงในความงามของเทพีอะโฟรไดท์ และต่างก็อยากได้นางมาเป็นคู่ครอง แม้แต่ซูสเองก็ปรารถนาเช่นกัน แต่เทพีอะโฟรไดท์ไม่ตอบรับความปรารถนานั้น ซูสก็คงพิโรธจึงยกนางให้กับ ฮิฟีสตัส (Hephaestus) เทพช่างตีเหล็ก (ฮิฟีสตัสเป็นเทพพิการ ขาไม่สมประกอบ มีกิริยาอาการเหมือนคนทุพพลภาพ และเป็นผู้ประดิษฐ์อาวุธให้กับทวยเทพทั้งหลายในเขาโอลิมปัส) ซูสยกเทพีอะโฟรไดท์ให้เป็นรางวัลตอบแทนความดีความชอบ ในโอกาสที่ฮิฟีสตัสได้สร้างอาวุธชื่ออัสนีบาต (Thunder Bolt) ถวายให้พระองค์ และเป็นการลงโทษเทพีอะโฟรไดท์ไปพร้อมๆ กัน
- เรื่องราวและตำนานความรักของอะโฟรไดท์นั้นมีมากมาย มีคู่รักทั้งเทพและมนุษย์ ตำนานที่รู้จักกันมากที่สุดคือ ชายหนุ่มชื่อ อโดนิส (Adonis) นางหลงรักอโดนิสเป็นอย่างมาก คอยติดตามไปทุกหนแห่ง แต่เป็นรักข้างเดียวที่ชายหนุ่มไม่ได้แยแสนางแต่อย่างใด อยู่มาวันหนึ่งอโดนิสล่าหมูป่า (ซึ่งเป็นเทพแอรีส Ares หนึ่งในชู้รักของอะโฟรไดท์) และพลาดท่าซัดหอกไปไม่ถูกที่สำคัญ หมูป่าจึงขวิดอโดนิสจนล้มลง เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของอโดนีสทำให้อะโฟรไดท์รีบรุดมา แต่ช่วยชีวิตไว้ไม่ได้ อโดนีสสิ้นใจตายในอ้อมกอดของอะโฟรไดท์ นางเสียใจเป็นอย่างมากจึงโปรยเกสรวิเศษบนร่างของชายหนุ่มทำให้เลือดของเขาหยดลงบนพื้นกลายเป็นต้น Anemone ดอกสีแดง และเลือดของอโดนิสกลายเป็นแม่น้ำอโดนิส ปัจจุบันคือแม่น้ำนาฮ์อิบราฮิม (Nahr Ibrahim) ในประเทศเลบานอน ในช่วง 6 เดือนที่สายน้ำไหลผ่านเทือกเขา แม่น้ำสายนี้จะมีสีแดง ประหนึ่งเลือดของอโดนิสที่ไหลออกจากร่างไปบนพื้น และในช่วงเดียวกันดอก Anemone สีแดงก็จะพากันบานในบริเวณนั้นด้วย ดอก Anemone นี้บางตำนานก็กล่าวว่าเป็นดอกกุหลาบ ดอกไม้แห่งความรักนั่นเอง
ดาวศุกร์ในทางโหราศาสตร์
- พระศุกร์เป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ ตามตำราโหราศาสตร์กล่าวว่า “กิเลสสมบัติทายศุกร์” ส่งผลในทางอ่อนหวาน มีเสน่ห์ ชอบเรื่องรักใคร่ ฝักใฝ่ในกามคุณ นั่นคือ ผู้ใดเกิดวันศุกร์หรือมีพระศุกร์สถิตร่วมกับลัคนา มักมีกิริยาน่ารัก อ่อนหวาน ชอบงานศิลปะทุกประเภท
- ตามนิทานชาติเวร เล่าไว้ว่า พระศุกร์เป็นมิตรกับพระอังคารและเป็นศัตรูกับพระเสาร์
- เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งในชาติที่พระศุกร์เกิดเป็นรุกขเทวดา ครั้งนั้นพระอังคารเกิดเป็นกบ และพระเสาร์เกิดเป็นงู อยู่มาวันหนึ่ง งูได้ไล่จับกบกินเป็นอาหาร กบได้หนีมาหลบใต้ต้นไม้ รุกขเทวดารู้สึกสงสารกบ จึงสำแดงฤทธิ์ไล่งูไป ตั้งแต่นั้น พระศุกร์จึงเป็นมิตรกับพระอังคาร และเป็นศัตรูกับพระเสาร์
- จากตำนานนี้ผู้ใดที่เกิดวันศุกร์แล้วพระอังคารโคจรเข้าสู่ดวงชะตา จะมีมิตรสหายเกื้อหนุน ได้ลาภยศทรัพย์สินเงินทอง ได้ยศศักดิ์และชื่อเสียง มีชัยชนะศัตรู รอดพ้นภัยพาล หากพระเสาร์โคจรเข้าสู่ดวงชะตา จะเกิดมีเกณฑ์พลัดพรากจากที่อยู่อาศัย มีเหตุให้เสียทรัพย์
- ในโหราศาสตร์ไทย พระศุกร์ถูกแทนด้วยสัญลักษณ์ ๖ (เลขหกไทย) และด้วยเหตุที่สร้างขึ้นมาจากโค หรือวิทยาธร ๒๑ ตน จึงมีกำลังพระเคราะห์เป็น ๒๑
- สำหรับพระประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันศุกร์ก็คือ พระพุทธรูปปางรำพึง เป็นพระพุทธรูปอยู่ในอิริยาบถประทับยืน พระหัตถ์ทั้งสองประสานยกขึ้นประทับที่พระอุระ (อก) พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย
การพยากรณ์สำหรับคนที่มีดาวศุกร์ส่งผลถึงลัคนา
ตามที่ได้ทำความรู้จักกับดาวศุกร์กันแล้วว่าดาวศุกร์เป็นดาวแห่งความรัก ความปรารถนา และเงินทอง ในตอนนี้เราก็จะมาดูการพยากรณ์บุคคลที่ดาวศุกร์ส่งผลถึง ว่าจะได้รับผลจากดาวศุกร์อย่างไรบ้าง
- ในทางกายภาพ บุคคลที่มีดาวศุกร์ส่งผลถึงจะเป็นคนรูปร่างสวย หุ่นดี โปร่งบาง หน้าตาหล่อสวยตามสมัยนิยม ถ้าเราดูใบหน้าจะมีส่วนเด่นที่สุดคือ คิ้วดก รูปคิ้วโค้งโก่งเหมือนคันศร ดูสวยงาม (มองดูแล้วเด่นที่คิ้ว) ใบหน้ารูปไข่ ปากสวย คิ้วและนัยน์ตาสวย ชวนฝัน หางตายาว ตาโศก ตอนวัยเด็กเป็นคนอ่อนแอ ขี้โรค โตขึ้นจึงสวยงาม หล่อเหลา
- คนที่มีดาวศุกร์ส่งผลถึงลัคนา จะมีประสาทสัมผัสไวต่อสี แยกแยะสีได้เก่ง ชอบสีสันสวยงาม
- ดาวศุกร์ที่ส่งผลถึงลัคนายังหมายถึงสุขภาพหรือหรือ โรคประจำตัว คือ มักจะเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ นิ่ว เส้นเอ็น หรือโรคเกี่ยวกับไต
- อายุขัยของบุคคลที่เป็นดาวศุกร์ประมาณ 50 ปี หากมีดาวคู่มิตรคู่ธาตุคู่สมพลส่งเสริมก็จะยืนยาวมากขึ้น และในทางกลับกัน หากมีดาวคู่ศัตรูมาก็จะเป็นตัวตัดทอนให้สั้นลง
- ในทางบุคลิกภาพ บุคคลที่มีดาวพฤหัสส่งผลถึงจะมีบุคลิกสุขุม เยือกเย็น หน้าตายิ้มแย้ม มักแสดงออกทางสีหน้า
- เมื่อยามพูดจะพูดด้วยเสียงที่ไพเราะ พูดมีเลศนัย พูดอะไรมักมีประเด็นแอบแฝง เพราะเป็นคนเจ้าแผนการ
- ในเรื่องการกินอยู่ มักจะเป็นคนเลือกกินแต่ของที่ตัวเองชอบ ไม่กินผัก ท่าเดินของคนที่มีดาวศุกร์จะชอบเดินทอดน่อง เวลายืนมักยืนหย่อนเข่าพักขาข้างหนึ่ง ไม่ชอบยืนตรง
- ในทางอุปนิสัย บุคคลที่มีดาวศุกร์ส่งผลถึงจะ อยากสวย อยากหล่อ อยากได้ อยากมี อยากรู้ อยากเก่ง อยากรวย อยากหรูหรา อยากสะดวกสบาย
- ในทางความคิด บุคคลที่มีดาวศุกร์ส่งผลถึงจะ เป็นคนมีจินตนาการ ช่างคิด รักแรง แค้นนาน ช่างจดจำโดยเฉพาะเรื่องเจ้าคิดเจ้าแค้น ละโมบ มักคิดเอาเปรียบผู้อื่น ถือคติว่า “มือใครยาวสาวได้สาวเอา” ถือใจตนเองเป็นใหญ่ ถ้ารักแล้วยอมทำได้ทุกอย่าง ถ้าหมดรักแล้วก็ไร้เมตตา ตัดขาดกันไปได้ง่ายๆ
- ดาวศุกร์เป็นดาวเจ้าแผนการ จะทำการใดต้องคิด ต้องวางแผนก่อนเสมอ วาดฝันปั้นโครงการเก่ง เหมาะที่จะเป็นนักบริหาร นักวางแผน งานการเงิน ไฟแนนซ์ การธนาคาร การลงทุนเล่นหุ้นเก่ง เข้าใจสถานการณ์ได้ดี
- ดาวศุกร์เป็นเจ้าแห่งอารมณ์ความรู้สึก มักรู้จุดอ่อนจุดแข็งของอารมณ์คนรอบข้าง ชอบเล่นกับอารมณ์ของคนอื่น นำเรื่องจุดอ่อนของคนอื่นมาใช้ประโยชน์ ในการโน้มน้าวหรือเดินเกมให้เข้ามาตามแผนของตน
- ดาวศุกร์เป็นดาวแห่งประสบการณ์ ชอบเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตมากกว่าเรียนในห้องเรียน จึงมักเรียนหนังสือไม่เก่ง
- ในทางการงานอาชีพ บุคคลที่มีดาวศุกร์ส่งผลถึงมักจะเป็นดารา นักแสดง ศิลปิน ถ้าเป็นครูมักจะสอนภาคปฏิบัติ เช่น ครูช่าง ครูศิลปะ เป็นโค้ช ทำงานที่ต้องใช้ความคิด เป็นนักบริหารที่ต้องวางแผน
- ส่วนเรื่องบ้านช่องที่อยู่อาศัย มักจะมีบ้านพักตากอากาศที่มีบริเวณ ไปพักเป็นบางครั้ง คนที่เป็นดาวศุกร์ส่วนมากมีบ้านมักปล่อยให้เช่า ส่วนตัวเองย้ายไปอยู่คอนโดมิเนียมตามตึกในเมือง เพราะรักความสะดวกสบาย
ดาวศุกร์กับตำแหน่งทำเนียบต่างๆ
มาตรฐานดาว หรือตำแหน่ง ทำเนียบของดาว เป็นเรื่องที่นักพยากรณ์มีความรู้เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ในตอนนี้เราก็จะมาดูเฉพาะเรื่องดาวศุกร์กันค่ะ
- เกษตร ดาวศุกร์ในราศีพฤษภและตุลย์ได้ทำเนียบเกษตร จะส่งผลให้บุคคลนั้นเด่นดีในทางศิลปะ ช่างคิด ทำสิ่งใดมักต้องวางแผนการเสียก่อน มีความรักที่สมหวัง เป็นคนบุคลิกดี ดูสง่างาม มีเสน่ห์ในเรื่องเพศ มีรสนิยมดี มีทรัพย์สินเงินทอง มักประกอบอาชีพเกี่ยวกับความสวยความงาม หรือ การเงินการธนาคาร ศิลปะทุกประเภท
- อุจ (มหาอุจ) ดาวศุกร์ในราศีมีนได้ทำเนียบอุจ หรือ มหาอุจ จะส่งผลให้บุคคลนั้นมีรูปงาม หน้าตาสวยหล่อ รูปร่างดี มีทรัพย์สมบัติ มีความรู้มาก มีชั้นเชิงในการวางแผนได้แยบยล เก่งเรื่องการเงินการลงทุน เสน่ห์แรงเป็นที่รักที่เสน่หา การสูงส่งขึ้นของทำเนียบมหาอุจ จะมีลักษณะโลดโผนหรือโดดเด่นมากกว่าดาวที่ได้ทำเนียบเกษตร
- ราชาโชค ดาวศุกร์ในราศีกรกฎได้ทำเนียบราชาโชค นอกจากจะส่งผลดีในแบบของดาวศุกร์ทั่วไป คือ มีเรื่องรักๆใคร่ๆ เก่งเรื่องวางแผนและการเงินการทองแล้วนั้น ดาวศุกร์ราชาโชคยังส่งผลให้บุคคลนั้นได้รับความนิยมจากคนหมู่มาก เป็นที่รักของบุคคลโดยทั่วไป มีเงินใช้ไม่ขาด หาทรัพย์ได้ไม่ลำบากยากเย็น มีเสน่ห์เป็นที่จดจำ และมักได้รับมอบหมายให้วางแผนในเรื่องสำคัญ การสูงส่งขึ้นของราชาโชคจะมีลักษณะสะดวกสบาย เจ้าชะตาไม่ต้องดิ้นรนขวนขวาย เปรียบเหมือนมีคนจัดใส่พานถวายให้เลย
- มหาจักร ดาวศุกร์ในราศีธนูได้ทำเนียบหาจักร จะส่งผลให้บุคคลนั้นมีฐานะร่ำรวย มีโภคทรัพย์ มีสมบัติพัสถาน หากรับราชการจะมียศศักดิ์สูง แต่ถ้าไม่รับราชการก็จะมีชื่อเสียงโด่งดัง การสูงส่งขึ้นของมหาจักรนั้นจะแตกต่างกับทำเนียบอื่น คือจะต้องต่อสู้ฟาดฟันเพื่อให้มาซึ่งชื่อเสียงและความร่ำรวย ต่างกับราชาโชคหรือมหาอุจที่ดูจะสะดวกสบายกว่า
- ประ และ นิจ สองทำเนียบนี้นับเป็นทำเนียบที่เสีย ดาวศุกร์ในราศีเมษและพิจิกได้ทำเนียบประ และ ดาวศุกร์ในราศีกันย์ได้ทำเนียบนิจ ประแปลว่าเสื่อม นิจแปลว่าน้อยด้อยค่า (บางตำราแปลว่าเลว) นั่นก็คือ เมื่อดาวศุกร์เป็นประเป็นนิจ จะส่งผลเสียในเรื่องความรักและทรัพย์สิน จะเอาดีในเรื่องรักๆใคร่ๆ ไม่ค่อยได้ อาภัพกว่าผู้อื่น และยังส่งผลให้เป็นคนไม่ค่อยโรแมนติก ไม่ค่อยรักในศิลปะ ไม่ฝักใฝ่ในทางกามคุณ
ดาวศุกร์กับภพต่างๆ ในดวงชะตา
เมื่อเรากล่าวถึงอานุภาพของดาวศุกร์ไปแล้ว เราก็ต้องดูด้วยว่าดาวศุกร์ส่งผลกับบุคลในเรื่องใดบ้าง ซึ่งดูได้จาก “ภพ” ที่ดาวศุกร์ไปสถิตในดวงราศีจักร ถ้าดาวตกในภพที่ส่งผลถึงเช่น กุม เล็ง โยค กับลัคนา (บางตำราเรียกว่า เป็น ๑ ๓ ๕ ๗ ๙ ๑๑ กับลัคนา) ดาวก็จะมีอิทธิพลกับเจ้าชะตามาก แต่ถ้าดาวไปตกในช่องเบียน คือ อริ มรณะ วินาศะ ดาวก็จะไม่ค่อยส่งผล แต่ถ้าไปตกในช่องส่ง ดาวก็จะส่งผลเป็นกลางๆ ในตอนนี้เราจะมาดูว่าเมื่อดาวศุกร์สถิตในภพต่างๆ ของราศีจักรจะส่งผลถึงบุคคลอย่างไรบ้าง
- ภพตนุ (เป็น ๑ กับลัคนา) จะเป็นคนมีร่างกายสูงโปร่ง สง่างาม หน้าตาสวยหล่อตามสมัยนิยม มีเสน่ห์น่ารักใคร่ รสนิยมดี เป็นคนรักความสะดวกสบาย ติดหรู มีความรู้มาก แต่ถือความรักเป็นใหญ่ ฝักใฝ่กามคุณ หมุนเงินเก่ง ชอบเรื่องการเงินการลงทุน เจ้าแผนการ เจ้าคิดเจ้าแค้น ชอบเล่นกับอารมณ์ของผู้อื่น
- ภพกดุมภะ (เป็น ๒ กับลัคนา) จะเป็นคนมีความสามารถทางการเงิน จัดการและวางแผนเรื่องเงินๆทองๆ ได้ดี หมุนเงินเก่ง มักมีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ และเรื่องในทำนองชู้สาวอยู่เสมอ
- ภพสหัสชะ (เป็น ๓ กับลัคนา) จะเป็นคนมีเพื่อนฝูงมาก มีคนรู้จักมากมาย หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส มีอัธยาศัยไมตรีดี
- ภพพันธุ (เป็น ๔ กับลัคนา) อ่อนเรื่องการวางแผน ทำสิ่งใดไม่ค่อยวางแผนล่วงหน้า ไม่ค่อยรอบคอบ หน้าตาไม่ยิ้มแย้ม มักจะไม่พิถีพิถันเรื่องการแต่งตัว ชอบแต่งตัวตามสบาย
- ภพปุตตะ (เป็น ๕ กับลัคนา) สมัยเด็กๆ ยังไม่คิดอะไรมาก พอมีอายุจึงเป็นคนคิดมากในภายหลัง ความอยากรู้ อยากได้ อยากมี จะมาเป็นในตอนที่มีอายุมากขึ้น เป็นคนยิ้มยาก ตอนอายุน้อยๆ ยังรักใครไม่ค่อยเป็น จะมีความรัก ความปรารถนา และมีเสน่ห์มากขึ้นตามอายุ
- ภพอริ (เป็น ๖ กับลัคนา) จะเป็นคนที่มีอุปสรรคในเรื่องความรัก มีคนรักทีไรก็มักจะมีคู่แข่ง ต้องแย่งชิงความรัก หรือมีความรักก็มักจะนำภัยมาให้ มักจะมีปัญหาเรื่องเงินเรื่องทอง
- ภพปัตนิ (เป็น ๗ กับลัคนา) จะเป็นคนคลั่งรัก รักหลงในกามคุณ ขาดเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ไม่ได้เลย
- ภพมรณะ (เป็น ๘ กับลัคนา) จะไม่ค่อยชอบแต่งตัว ไม่สนใจเรื่องความสวยความงาม รักใครได้ไม่นานเพราะทำดีได้แต่ตอนรักกันใหม่ๆ รักกันนานไปก็ค่อยเสื่อมคลายลงจนหมด ถ้ากำลังมีความรัก พอเอ่ยปากบอกรักใครก็มักจะต้องเลิกรากัน
- ภพศุภะ (เป็น ๙ กับลัคนา) จะเป็นคนช่างคิดช่างฝัน มีจินตนาการ มีความคิดอยากได้ใคร่ดีทั้งในเรื่องเงินทองและความรัก มักจะหมกมุ่นในเรื่องที่คิด ทำให้เป็นคนที่เคร่งเครียด
- ภพกัมมะ (เป็น ๑๐ กับลัคนา) เป็นคนที่แต่งตัวแล้วดูดีมีสง่าราศี จะได้ทำงานวางแผน ทำงานการเงินการธนาคาร งานเกี่ยวกับไฟแนนซ์ มักได้รับมอบหมายให้ทำงานสำคัญ ถ้าไม่ได้ทำงานเรื่องเงิน-เรื่องวางแผน ก็จะถนัดงานบริการเกี่ยวกับความสวยความงาม
- ภพลาภะ (เป็น ๑๑ กับลัคนา) จะมีความรักไม่ขาด มีคนมารักมาเสน่หา เรื่องเงินทองก็ไม่ขาดแคลน มักจะมีแม่ยก คือมีคนอุปถัมภ์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จะได้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จัก
- ภพวินาศะ (เป็น ๑๒ กับลัคนา) จะเป็นคนคิดน้อย ทำสิ่งใดไม่ค่อยยั้งคิด ไม่วางแผน จะเป็นคนยิ้มยาก มักอาภัพในเรื่องความรัก ไม่ได้สมหวังตามที่ปรารถนา เป็นคนใช้จ่ายเงินเก่ง มีเท่าไหร่ใช้หมดจึงไม่เก็บมีออม
ความรู้เรื่องดาวศุกร์ ดาวคู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพล คู่ศัตรู
ในตอนนี้เราก็จะกล่าวถึงดาวศุกร์เมื่อกระทบหรือส่งกระแสสัมพันธ์ถึงดาวอื่นๆ ว่าจะส่งผลดีร้ายอย่างไร ดาวที่กระทบกัน ถ้าถูกชะตากันก็จะส่งผลดี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน หรือ ส่งผลให้เกิดผลประโยชน์ดีๆ ขึ้นมา และในทางกลับกัน เมื่อไปเจอคู่ศัตรูก็จะส่งผลในทางลบนั่นเอง
- คู่แรกที่จะกล่าวถึงคือดาวคู่มิตร ตามตำรากล่าวไว้ว่า “ศุกร์ปากหวานอังคารรับเอา” ดาวคู่มิตร ศุกร์-อังคาร ส่งผลดีคือเป็นคู่หัวหน้า หัวโจก ได้เป็นผู้นำ คนที่มีดาวคู่ ๓๖ มักได้รับความไว้วางใจ มีคนเชื่อถือ ได้เป็นที่รัก ศุกร์นั้นวางแผนได้ดีมีความแยบยล ส่วนอังคารส่งผลให้ปฏิบัติได้ จึงกลายเป็นคนที่คิดได้ทำเป็น ขยันขันแข็งแล้วได้มรรคได้ผล ไม่เสียแรงเปล่า มักจะเป็นขวัญใจที่ใครๆ ก็อยากทำตาม อยากเลียนแบบ
- คู่ที่สองคือดาวคู่ธาตุ ศุกร์เป็นดาวธาตุน้ำจึงเป็นคู่ธาตุน้ำกับดาวพุธ ต่างกันที่ดาวพุธเป็นน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ มีความนิ่ง เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต แต่ศุกร์เป็นน้ำฝน น้ำค้าง หรือ เมฆหมอก จึงเป็นน้ำบริสุทธิ์ ดาวคู่ธาตุน้ำ พุธ-ศุกร์ ส่งผลเป็นความเยือกเย็น ลื่นไหล เอาใจคนรอบข้าง หมายถึง การกระทำเพื่อให้คนส่วนใหญ่พอใจ เป็นคนของประชาชน เป็นที่รักใคร่ของส่วนรวม มีวาทะศิลป์ดี หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส การเจรจามีไมตรีดี มีอารมณ์เยือกเย็น
- คู่ที่สามคือคู่สมพล (กำลังดาวรวมกันได้ 27) ศุกร์เป็นคู่สมพลกับดาวอาทิตย์ ส่งผลดีเป็นความชื่นชอบ ชื่นชม บุคคลที่มี ๑๖ ในดวงชะตาจะมีความเข้าใจในจุดอ่อนเรื่องอารมณ์ของผู้อื่น และนำเรื่องเหล่านี้มาเป็นเงื่อนไข ใช้สร้างความนิยมหรือก่อประโยชน์ให้กับตนเอง คนมีคู่สมพลทำการใดมักมีผลประโยชน์ร่วมด้วย เป็นคนมีแผนและระมัดระวังในการทำการงาน
- คู่ที่สี่คือดาวคู่ศัตรู ตามตำรากล่าวไว้ว่า “ศุกร์เสาร์เป็นเสี้ยนศัตรู” ดาวคู่ศัตรู ศุกร์-เสาร์ ส่งผลเสียคือ ทำให้เครียดเรื่องเงินเรื่องทอง มักมีปัญหาเรื่องเงิน มักจะมีเหตุทำให้เกิดความพลัดพรากจากไกล มีเรื่องเศร้าโศกไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลา ต้องมีเรื่องเหนื่อยยากอยู่เสมอ
- นอกจากคู่ศัตรู ๖๗ แล้ว มีดาวที่ไม่ค่อยถูกชะตากับศุกร์ ก็คือดาวพฤหัส แม้จะไม่ให้โทษถึงขนาดเศร้าโศกพลัดพราก แต่พฤหัสเป็นคุรุของเหล่าเทพ อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับศุกร์ที่เป็นคุรุของอสูร ทั้งสองแข่งขันกันเพื่อให้ศิษย์ได้ดีมีความเจริญกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง คู่ ๕๖ จึงเป็นคู่แข่งขัน บุคคลที่มี ๕๖ ในดวงชะตามักมีคู่แข่ง candidate อยู่เสมอ ทำการใดมักรีบเร่ง เร่งร้อน ไม่สามารถใช้ชีวิต slow life เรื่อยๆ เปื่อยๆ ได้
ดาวที่สถิตในเรือนเกษตรของดาวศุกร์
นอกเหนือจากการพยากรณ์ดาวศุกร์สถิตในภพต่างๆ ของดวงจักรราศี ส่งผลแตกต่างกันไปตามเรื่องหรือภพนั้นๆ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่นักพยากรณ์ควรสังเกตุ คือ การที่มีดาวในดวงกำเนิดไปสถิตในเรือนเกษตรของดาวศุกร์ ก็ส่งผลให้ดาวศุกร์ได้อีกทางหนึ่งด้วย ยกตัวอย่างเช่น
- ดาวพฤหัส อยู่ในเรือนเกษตรของดาวศุกร์ คือมีดาวพฤหัสในราศีพฤษภหรือตุลย์ ส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นคนที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่นอยู่เรื่อย สิ่งใดทำมาดีๆ ก็มักจะมีคนคอยเบียดบังหรือมาแย่งชิงผลงานไป เป็นคนที่ต้องรีบต้องเร่งอยู่เสมอ เพราะพฤหัสอยู่ในบ้านศุกร์ที่แข่งขันกันมาตลอด ดังนั้นเมื่ออยู่กับบ้าน ทำให้คนในบ้านไม่ค่อยเห็นคุณค่า ต้องออกนอกบ้านคนภายนอกจึงเห็นค่าว่ามีความสามารถ
- ดาวราหู อยู่ในเรือนเกษตรของดาวศุกร์ คือมีดาวราหูในราศีพฤษภหรือตุลย์ ราหูนั้นเป็นโจร เมื่ออยู่บ้านศุกร์ผู้เป็นครูโจร จึงส่งผลให้เจ้าชะตาได้เป็นที่ปรึกษา เป็นคนมีความสามารถพิเศษ เป็นอาจารย์ที่มีความรู้แก่กล้าแต่ยังไม่ละกามคุณ เป็นคนชาญฉลาด แต่มักหลงระเริงในสิ่งที่ชอบ ยับยั้งไม่ได้ เพราะ ๖๘ นั้นถูกคอกัน มีแต่ยุยงส่งเสริม ไม่มีใครทัดทานใคร นอกจากถึงคราวที่จะเลิกราก็พากันหยุดได้ในทันทีทันควัน
- ดาวเกตุ หรือดาวบุญ อยู่ในเรือนเกษตรของดาวศุกร์ คือมีดาวเกตุในราศีพฤษภหรือตุลย์ ดาวเกตุเป็นเหมือนสารเร่งปฏิริยาส่งผลดีกับดาวประเภทศุภเคราะห์ให้ยิ่งดีขึ้นไปอีก ส่งผลให้เป็นคนแต่งตัวขึ้น มีความงามไม่สร่างซา อายุมากเท่าไหร่ก็ดูไม่แก่ ดูหนุ่มสาวกว่าอายุ มีความรักและความสุขทางกามคุณที่ไม่ลดน้อยถอยลง เป็นที่รักตลอดกาล คนรักและชมเชย มีความฉลาดคิดทันคนอื่นอยู่เสมอ
- ดาวมฤตยู หรือดาวกรรม อยู่ในเรือนเกษตรของดาวศุกร์ คือมีดาวมฤตยูในราศีพฤษภหรือตุลย์ ดาวมฤตยูสถิตราศีใดจะคอยทำลายอานุภาพของดาวที่ร่วมราศีและส่งผลถึงดาวเจ้าเรือนเกษตรอีกด้วย ทำให้บุคคลนั้นมีความรักและความสุขที่ผิดเพี้ยนอาเพศไป ชอบของแปลก มีความสุขแปลกๆ ไม่เหมือนชาวบ้าน เช่น รักคนเพศเดียวกัน รักนอกกรอบ แอบรักคนที่มีเจ้าของ มีความสุขทางเพศแบบวิตถาร ไม่เหมือนคนทั่วไป
ดาวศุกร์กับพรรคพวก
ดาวศุกร์เมื่ออยู่ลำพังมีอานุภาพในเรื่องความรัก ความเสน่หา เงินทอง และแผนการต่างๆ แต่เมื่อดาวศุกร์ได้พรรคพวกที่เข้ากันได้มาระดมกำลังกันเกิดเป็นกลุ่มดาวที่ส่งผลเป็นความยิ่งใหญ่มีกำลังกล้าแข็ง ในตอนนี้จะกล่าวถึงกลุ่มดาวที่รวมตัวกันเป็นเกณฑ์เป็นก๊กเหล่า ว่าจะส่งผลอย่างไรบ้าง
- ก๊กเศรษฐี ๒๔๕๖ ประกอบด้วย ดาวจันทร์ พุธ พฤหัส และดาวศุกร์ เมื่อ ๒๔๕๖ ร่วมราศี หรือ โยคถึงกัน และส่งผลถึงลัคนา จะทำให้อุดมไปด้วยเงินทอง ทรัพย์สมบัติ มีความเจริญก้าวหน้าในการค้าขาย มีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุข
- ก๊กโจร ๓๖๗๘ ประกอบด้วย ดาวอังคาร ศุกร์ เสาร์ และดาวราหู เมื่อ ๓๖๗๘ ร่วมราศี หรือ โยคถึงกัน และส่งผลถึงลัคนา จะทำให้เจ้าชะตาชอบเรื่องเสี่ยงๆ การปล้น การโกง การฉกฉวยโอกาส เรื่องสีเทาๆ เรื่องไม่เปิดเผย เรื่องผิดทำนองคลองธรรมผิดระเบียบแบบแผน เรื่องที่ทำกันแบบลับๆ แล้วส่งผลปัง-ดังในชั่วข้ามคืน หรือกิจกรรมที่ทำไปเพื่อเน้นความสะใจเป็นผลตอบแทน
ด้วยสำนึกในพระคุณครู
กราบแทบบาทครูบาอาจารย์เจ้า ผู้คอยเฝ้าสอนสั่งศิษย์ทั้งหลายฯ
ทีมงานตาณฑวะ