ดวงดาวกับต้นไม้

การเปรียบเทียบทางโหราศาสตร์
ลัคนาและดาว กับ ต้นไม้

คุยเรื่องดาว-เล่าเรื่องดวง
วันนี้เราจะมาดูเรื่องการเปรียบเทียบ “ลัคนา และ ดาว” กับ “ต้นไม้”

ในทางโหราศาสตร์นั้น โหราจารย์ในสมัยก่อน จะมีกุศโลบายยกการเปรียบเทียบต่างๆ มาเป็นตัวอย่างเพื่อให้ลูกศิษย์ที่เรียนวิชาโหร มีความเข้าใจในเรื่องดวงชะตาได้อย่างถ่องแท้และลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

วันนี้เราก็จะมาคุยกันในเรื่องโหราศาสตร์ไทย ที่เปรียบเทียบ ลัคนา และดวงดาว กับต้นไม้ ซึ่งจะถูกบรรจุไว้ในบทเรียนของวิชาโหราศาสตร์

อ้างอิงความรู้นี้จากหนังสือ กลวิธีพิจารณาดวงชะตาตามหลักวิชาโหราศาสตร์ ประพันธ์โดย พระมหาบรรเทา จันทรศร ซึ่ง พันเอก ขุนวิบูลแพทยาคม กับ คุณนายดวงแข เลาหะคามิน จัดพิมพ์เป็นวิทยาทาน อุทิศให้แก่ อำมาตย์ตรี พระยาประดิพัทธ์ภูบาล

Let's join our channel
การเปรียบเทียบ

ในหนังสือ กล่าวไว้ว่า
ลัคนาคือต้นไม้ใหญ่  อาทิตย์ไซร้คือรากพฤกษา
จันทร์คือแก่นมหึมา  อังคารสิหนาคือใบตระการ
พุธคือดอกดวงมาลย์   พฤหัสคือผลรับประทาน
ศุกร์คือเปลือกหอมหวาน  เสาร์คือกิ่งก้านสาขา
ราหูคือตัวสัตวา  มอดคอยกัดกินให้สูญสิ้นสิ่งทั้งหลาย

ลัคนาและดวงดาวกับต้นไม้

เราก็จะมาไล่ดูทีละส่วนตั้งแต่ต้นกันไปเลยนะคะ
“ลัคนาคือต้นไม่ใหญ่” ในการเปรียบเทียบดวงชะตาในจักรราศี สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือลัคนา ซึ่งหมายถึง “ชีวิต” ทั้งหมดของเจ้าชะตานั่นเอง ต้นไม้ใหญ่ ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ นับตั้งแต่
1 ราก
2 ลำต้น
3 ใบ
4 ดอก
5 ผล
6 เปลือกไม้
7 กิ่งก้านสาขา
8 ศัตรูพืชที่มาคอยกัดกิน

ส่วนต่างๆ ที่มาประกอบกันเป็นชีวิต ก็คือ ดาวพระเคราะห์ที่สถิตในจักรราศี หรือ ดวงกำเนิด ที่จะได้กล่าวต่อไป

อาทิตย์ไซร้คือรากพฤกษา

“อาทิตย์ไซร้คือรากพฤกษา” ดาวดวงแรกก็คือ “ดาวอาทิตย์” เปรียบได้กับ “ราก” ของต้นไม้ เป็น “รากฐานของชีวิต”
ในทางโหราศาสตร์ ดาวอาทิตย์เป็นตัวแทนของ
1 แสงสว่าง
2 เกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความสง่างาม
3 ระเบียบวินัย
4 ความใฝ่รู้ ใฝ่เรียน และใฝ่หาความเจริญก้าวหน้า
5 ความเป็นผู้นำ

ดวงชะตาใดมีอาทิตย์ดี เจ้าชะตาก็จะเป็นคนรักศักดิ์ศรี มีวินัย ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน รักความก้าวหน้า เจ้านายเมตตา ลูกน้องยำเกรง

“อาทิตย์ดี” คือรากที่แข็งแรง หยั่งลึก ส่งผลให้ “ชีวิตมั่นคง” ไม่โยกคลอนได้โดยง่าย

จันทร์คือแก่นมหึมา

“จันทร์คือแก่นมหึมา” ดาวดวงต่อมาคือ “ดาวจันทร์” เปรียบได้กับ “แก่น” ของต้นไม้ หรือ ลำต้น เป็น “แก่นสารของชีวิต”
ในทางโหราศาสตร์ ดาวจันทร์เป็นตัวแทนของ
1 สามี-ภรรยา หรือ คู่ครอง-คู่ชีวิต
2 ครอบครัว
3 ความประนีประนอม-รอมชอม หรือ Compromise

ดวงชะตาใดมีจันทร์ดี ส่งผลให้เจ้าชะตามีคู่ชีวิตที่ดี เป็นคนประนีประนอม ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีที่ทำให้มีครอบครัวที่อบอุ่น ชีวิตดีมีที่พึ่งพิง เมื่อประสบเหตุการณ์ในชีวิต ก็จะไม่แตกหักเสียหายได้ง่ายๆ เหมือนต้นไม้ที่มีลำต้นแข็งแรง แก่นของลำต้นเหนียวทนทาน เมื่อต้องเจอลมพายุก็ไม่โค่นล้มลงได้โดยง่ายนั่นเอง

“จันทร์ดี” คือแก่นที่แข็งแรง เหนียวแน่น ส่งผลให้ “ครอบครัวดี” เป็นที่ยึดเหนี่ยวได้

อังคารสิหนาคือใบตระการ

“อังคารสิหนาคือใบตระการ” ข้อนี้คือ “ดาวอังคาร” เปรียบเทียบได้กับ “ใบ” หมายถึง “การทำมาหากิน” เพราะใบนั้นทำหน้าที่สังเคราะห์แสง สร้างอาหารให้กับต้นไม้ โหราจารย์จึงเปรียบอังคารกับใบได้ดีทีเดียว
ในทางโหราศาสตร์ ดาวอังคารเป็นตัวแทนของ
1 ความกล้าหาญ
2 ความขยันขันแข็ง ไม่อยู่เฉย
3 ความฉลาด
4 ความมีชีวิตชีวา ความสดชื่น ชอบท่องเที่ยวสนุกสนาน

ดวงชะตาใดมีอังคารดี ก็จะเป็นคนขยัน ไม่นิ่งดูดาย ชอบออกหน้าอาสา มีความกล้า เฉลียวฉลาด ชอบเที่ยว มีชีวิตชีวา

“อังคารดี” คือใบที่แข็งแรง สังเคราะห์แสงดี ส่งผลให้ “ทำมาหากินเก่ง” ไม่อดอยาก

พุธคือดอกดวงมาลย์

“พุธคือดอกดวงมาลย์” ข้อนี้คือ “ดาวพุธ” เปรียบเทียบกับ “ดอก” หมายถึง “ความน่าสนใจ ดึงดูด ผู้ที่พบเห็น” เพราะดอกนั้นมีสีสัน รูปทรง สวยงาม ดึงดูดแมลงให้เข้ามาดอมดม โหราจารย์จึงเปรียบดาวพุธเจ้าแห่งการเจรจาสื่อสาร เป็นดอกอันสวยงามของต้นไม้
ในทางโหราศาสตร์ ดาวพุธเป็นตัวแทนของ
1 ความอ่อนหวาน
2 การพูดจา วาทะศิลป์
3 ความสัตย์ซื่อ และจริงใจ

ดวงชะตาใดมีพุธดี ก็จะมีความอ่อนหวาน การพูดจาดี เจรจาได้น่าฟัง วาทะศิลป์จับใจผู้ที่พูดคุยด้วย

“พุธดี” คือดอกไม้ที่สวยงาม ส่งผลให้ “การสื่อสารดี มีมิตรสหายที่จริงใจ”

พฤหัสคือผลรับประทาน

“พฤหัสคือผลรับประทาน” ข้อนี้คือ “ดาวพฤหัส” เปรียบเทียบกับ “ผลไม้” หมายถึง “ผลงานของชีวิต” เพราะผลไม้คือผลผลิตสุดท้ายที่จะบอกได้ว่าชีวิตของบุคคลนั้น ได้ผลสรุปสุดท้ายออกมาเป็นเช่นไร สวยงามน่ารับประทาน รสชาติหอมหวาน กินแล้วชื่นอกชื่นใจอย่างไร โหราจารย์จึงเปรียบดาวพฤหัสเจ้าแห่งคุณธรรมความดี เป็น ผลไม้
ในทางโหราศาสตร์ ดาวพฤหัสเป็นตัวแทนของ
1 คุณธรรม ความเมตตา
2 ปัญญาบริสุทธิ์
3 ความบริสุทธิ์ ผ่องใส

ดวงชะตาใดมีพฤหัสดี ก็จะเป็นคน ฝักใฝ่ในคุณงามความดี เป็นคนมีคุณธรรม ถือหลักเกณฑ์มีหลักการ ปฏิบัติตามขนบประเพณีอันดีงาม มีปัญญา มีความบริสุทธิ์ จิตใจสะอาดผ่องใส

“พฤหัสดี” คือผลที่สมบูรณ์ มีรสอร่อย ส่งผลให้ “มีคุณธรรม ความดีงาม” ไม่ตกต่ำ

ศุกร์คือเปลือกหอมหวาน

“ศุกร์คือเปลือกหอมหวาน” ข้อนี้คือดาวศุกร์ เปรียบได้กับ “เปลือกอันหอมหวาน” [โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว อาจารย์คิดว่า การเปรียบเทียบนี้ช่างเปรียบได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะกิเลสสมบัติคือศุกร์ การเทียบความปรารถนากับเปลือกนี้ ทำให้เรารู้ว่าโหราจารย์ท่านมองชีวิตได้ลึกซึ้ง เห็นความปรารถนาของผู้คนเป็นแค่เปลือก ไม่ได้เป็นแก่นสาร หรือ ผลผลิตที่แท้จริงแต่อย่างใด] เปลือกที่มีกลิ่นหอมนี้ หมายถึง “สิ่งที่ชวนให้หลงใหล” ทั้ง รูปร่าง หน้าตา และ เสน่ห์อันเย้ายวน โหราจารย์จึงเปรียบดาวศุกร์เจ้าแห่งกิเลสสมบัติ เป็น เปลือกของต้นไม้
ในทางโหราศาสตร์ ดาวศุกร์เป็นตัวแทนของ
1 ความรัก ความปรารถนา
2 ความสุข ความทุกข์
3 เงินทอง สมบัติ
4 การวางแผน

ดวงชะตาใดมีศุกร์ดี ก็จะมีรูปงาม มีเสน่ห์ เป็นที่น่ารัก น่าหลงใหล เจ้าแผนการ มีความสามารถในการบริหารจัดการเรื่องเงิน หมุนเงินเก่ง

“ศุกร์ดี” คือเปลือกไม้ที่มีกลิ่นหอม ส่งผลให้ “มีเสน่ห์” สมหวังในกิเลสสมบัติ

เสาร์คือกิ่งก้านสาขา

“เสาร์คือกิ่งก้านสาขา” ข้อนี้ คือ “ดาวเสาร์” เปรียบได้กับ “กิ่งก้านสาขา” ของต้นไม้ที่แผ่ขยายออกไป หมายถึง “การแผ่ขยายของชีวิต” การที่ต้นไม้แตกกิ่งก้านสาขาแผ่ร่มเงาไปได้ไกล ก็คือความเจริญของชีวิตที่แผ่ขยายออกไปได้อย่างกว้างขวาง โหราจารย์จึงเปรียบดาวเสาร์ เป็น กิ่งก้านของต้นไม้
ในทางโหราศาสตร์ ดาวเสาร์เป็นตัวแทนของ
1 ความอึด ความอดทนเป็นระยะเวลานาน
2 เครดิต
3 การรักษาคำมั่นสัญญา
4 ความรอบคอบ ระแวดระวัง

ดวงชะตาใดมีเสาร์ดี ก็จะเจริญงอกงาม เหมือนต้นไม้แตกกิ่งก้านเป็นสาขาแผ่ขยายกว้างไกลออกไป

“เสาร์ดี” คือกิ่งก้านสาขาแข็งแรง แผ่ได้ไกล ส่งผลให้ “ชีวิตมีความเจริญงอกงามดี เป็นคนกว้างขวาง”

ราหูคือตัวสัตวา มอดคอยกัดกินให้สูญสิ้นส่วนทั้งหลาย

“ราหูคือตัวสัตวา มอดคอยกัดกินให้สูญสิ้นส่วนทั้งหลาย” ข้อนี้โหราจารย์ท่านเปรียบเทียบ “ดาวราหู” เป็น “มอดปลวก” ที่จะมาคอยกัดกินต้นไม้ หรือ ทำลายชีวิตให้สูญสิ้นไป [จะเห็นได้ว่า ค่านิยมของสมัยก่อนจะแตกต่างไปจาปัจจุบัน เพราะสมัยก่อนจะให้ค่ากับปัญญา ความบริสุทธิ์ และการยึดถือขนบธรรมเนียมว่าสูงส่ง แต่กับเรื่องเล่ห์เหลี่ยม หรือคนมากเล่ห์เพทุบายนั้นจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่ได้คะแนนนิยมในสมัยก่อน] เพราะดาวราหูคือความมัวเมา ความไม่ชัดเจน เรื่องสีเทา เรื่องคลุมเครือ โหราจารย์จึงเปรียบดาวราหูเป็น มอดปลวกที่ทำลายต้นไม้ หรือเป็นตัวบั่นทอนชีวิตให้เสียหาย
ในทางโหราศาสตร์ ดาวราหูเป็นตัวแทนของ
1 ความมัวเมา ความลุ่มหลง
2 ความหุนหันพลันแล่น
3 ไหวพริบปฏิภาณ
4 การแก้ไขปัญหาสถานการณ์แบบเฉพาะหน้า

ตามตำราโบราณกล่าวว่า ดวงชะตาใดมีราหูดี ก็จะมีความลุ่มหลงมัวเมา มืดบอด เสพติดของมึนเมา หรือ อบายมุขต่างๆ มีความวุ่นวายในชีวิตอยู่เสมอ หาความสงบไม่ใคร่ได้

“ดาวราหูดี” คือมอดปลวกจำนวนมาก ส่งผลให้ “มีความลุ่มหลงมัวเมา เสพติด บั่นทอนชีวิตให้เสียหาย”

ในตำรานั้นกล่าวไว้เพียง 9 ข้อ คือ ลัคนา และดาวอาทิตย์ไปจนถึงดาวราหู ทีมงานคิดว่าถ้าหากเรานำ “ดาวเกตุ” มาเปรียบเทียบ ก็น่าจะหมายถึง “ปุ๋ย” ที่ช่วยเร่งให้ต้นไม้มีความงอกงามรวดเร็วขึ้น แล้วแต่ว่าดาวเกตุไปโยคถึงดาวดวงในก็ส่งผลเร่งไปตามส่วนนั้น เช่น ราก ลำต้น ใบ ดอก และ ผล เป็นต้น

ส่วนดาวมฤตยูนั้น ก็ยังไม่ทราบว่าจะเปรียบเทียบกับอะไรของต้นไม้ หากท่านใดคิดออกก็สามารถมา Comment ไว้ได้นะคะ

ทีมงานก็ขอจบรายการ คุยเรื่องดาว-เล่าเรื่องดวง เรื่องการเปรียบเทียบ “ลัคนาและดาว” กับ “ต้นไม้” ตามตำราโหราศาสตร์ ไว้เพียงเท่านี้ มีหลายข้อที่เรานำมาเสริมความเข้าใจในการการพยากรณ์ได้ลึกซึ้งมากขึ้น แต่ก็มีหลายเรื่องที่ได้แปรเปลี่ยนไปตามสังคมและสภาพของโลกในปัจจุบัน ทีมงานก็หวังว่าแฟนรายการจะได้ประโยชน์กันไปบ้างตามสมควร แล้วพบกันใหม่ สวัสดีค่ะ

ด้วยสำนึกในพระคุณครู

กราบแทบบาทครูบาอาจารย์เจ้า ผู้คอยเฝ้าสอนสั่งศิษย์ทั้งหลายฯ

ทีมงานตาณฑวะ