การพยากรณ์ดาวจรด้วยหลักวิชาโหราศาสตร์ไทย
ตาณฑวะดาราจร
20 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2565
- facebook.com/tandhava
- tandhava999
ทักทาย
สวัสดีค่ะ เชิญพบกับรายการตาณฑวะดาราจร การพยากรณ์ดาวจรตามหลักวิชาโหราศาสตร์ไทย ในวันนี้จะเป็นการพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าในช่วงวันที่ 20-31 สิงหาคม 2565
ตำแหน่งและทำเนียบของดาวจร
สำหรับแฟนรายการตาณฑวะดาราจรที่ติดตามการโคจรของดวงดาวเป็นประจำ ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ มีดาวยกย้ายราศี 2 ดวง คือ ดาวอาทิตย์และดาวพุธ แม้ว่าจะเป็นการขยับของดาวรายเดือนเพียง 2 ดวง แต่ผลที่เกิดขึ้น ได้ทำให้เกิดเกณฑ์ลักษณะพิเศษ “ตรีโกณ” มีการโยคกันของดวงดาวเป็นก๊กเป็นเหล่า ทั้ง “ก๊กเศรษฐี” “ก๊กโจร” และ “ก๊กวิญญาณ” นั่นก็หมายถึงเราจะได้เห็นบรรยากาศทั่วไปตอนปลายเดือนสิงหาคม จะมีการเคลื่อนไหวของ “กิจการ” และกลุ่มคนต่างๆ จะมีการรวมตัวกันเพื่อกระทำการตามวัตถุประสงค์ของก๊กของเหล่า ในการพยากรณ์รอบนี้จะเป็นอย่างไรกันบ้าง มาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
สิ่งแรกที่เราจะมาดูกันก็คือ ตำแหน่ง และ ทำเนียบของดาวจร
- ๑-ดาวอาทิตย์ สถิตราศีสิงห์ ได้ทำเนียบเกษตร หมายถึง มั่นคง
- ๒-ดาวจันทร์ จะยกย้ายราศีทุกสองวันครึ่ง เราจึงไม่ได้ระบุตำแหน่งไว้
- ๓-ดาวอังคาร สถิตราศีพฤษภ ได้ทำเนียบประ หมายถึง เสื่อม๔-ดาวพุธ สถิตราศีกันย์ ได้ทำเนียบเกษตร หมายถึง มั่นคง
- ๔-ดาวพุธ สถิตราศีกันย์ ได้ทำเนียบเกษตร หมายถึง มั่นคง
- ๕-ดาวพฤหัส สถิตราศีมีน ได้ทำเนียบเกษตร หมายถึง มั่นคง
- ๖-ดาวศุกร์ สถิตราศีกรกฎ ได้ทำเนียบราชาโชค หมายถึง สำคัญ
- ๗-ดาวเสาร์ สถิตราศีมังกร ได้ทำเนียบเกษตร หมายถึง มั่นคง
- ๘-ดาวราหู สถิตราศีเมษ ไม่มีทำเนียบ
- ๙-ดาวเกตุ สถิตราศีมังกร ไม่มีทำเนียบ
- ๐-ดาวมฤตยู สถิตราศีพฤษภ ไม่มีทำเนียบ
การโคจรของดวงดาว
- การโคจรของดวงดาวในช่วงพี่พยากรณ์นี้มีดาวที่โคจรวิปริตอยู่ 3 ดวง คือ
๔-ดาวพุธ โคจรพักร์ ปกติดาวพุธคือความนุ่มนวล การเจรจา ใช้วาทศิลป์ การค้าขาย ความคุ้มค่าต่างๆ เมื่อดาวพุธโคจรพักร์ก็จะส่งผลให้ การพูดการจามีความรุนแรงเกินกว่าเหตุ - ๕-ดาวพฤหัส โคจรมนฑ์ ปกติดาวพฤหัสเป็นครูบาอาจารย์ ผู้ใหญ่ที่มาให้คุณกับดวงชะตา เมื่อโคจรมนฑ์ก็จะส่งผลตรงข้าม คือมาเพ่งเล็ง มาจับผิด มาลงโทษ
- ๗-ดาวเสาร์ โคจรมนฑ์ ปกติดาวเสาร์เป็นเจ้าแห่งความทุกข์ มาช่องไหนก็เกิดความเครียดในเรื่องนั้น เมื่อโคจรมนฑ์ก็จะส่งผลตรงข้าม คือ ไม่เหนื่อย ไม่เครียด ไม่ทุกข์
- นอกจากดาว 3 ดวงที่โคจรพักร์/มนฑ์ที่กล่าวข้างต้น ก็ยังต้องพูดถึงดาวมฤตยูที่มนฑ์ข้ามราศีอีก 1 ดวง
๐-ดาวมฤตยู มนฑ์ข้ามราศี ปกติดาวมฤตยูจะหมายถึง ความหนัก ความเชื่องช้า ความเซื่องซึม เมื่อโคจรมนฑ์ก็จะส่งผลตรงข้าม คือ รวดเร็ว
ตรีโกณ
ดวงดาวได้เกณฑ์ลักษณะพิเศษ “ตรีโกณ”
ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมดวงดาวทำมุมได้เกณฑ์ลักษณะพิเศษ เป็น ตรีโกณธาตุดิน คือมีดาวจรสถิตที่ราศีธาตุดินครบทั้ง 3 ราศี (มังกร-พฤษภ-กันย์) โดยมีดาวในตรีโกณ คือ อังคาร – พุธ (พักร์) - เสาร์ (มนฑ์) – เกตุ - มฤตยู
ทำนายได้ว่า มีการกระทำด้วยความไม่ยั้งคิด มีความกล้าที่จะพูดจะทำ โดยไม่ได้คำนึงถึงความคุ้มค่าหรือผลประโยชน์ที่จะได้รับ แต่ก็ยังรอดพ้นอันตรายจากการไม่ยั้งคิด และส่งผลสำเร็จในเรื่องของคนอื่น ไม่ได้ผลตอบแทนที่เป็นของตนเอง
ก๊กเศรษฐี
ดูดวงดาวที่โยคถึงกันในก๊กเศรษฐี คือ ๔๕๖ ในราศี มีน - กรกฎ - กันย์ ก๊กเศรษฐีเป็นกลุ่มคนที่ทำการเพื่อหวังผลกำไร ผลกำไรที่ได้ก็จะนำไปสร้างความสุขให้ครอบครัว ในช่วงที่ทำนายนี้ ดาวพฤหัสและดาวพุธ สมาชิกของก๊กเศรษฐี โคจรวิปริต เรียกว่า ก๊กเศรษฐีแตก นั่นคือ การค้าขาย กิจการ การเงินการธนาคาร จะเกิดความเสียหาย ไม่ได้กำรี้กำไร และจะเกิดการขาดทุนเสียหาย เพราะความรู้ในช่วงนี้เป็นความรู้ด้านลบ (๕๐) การพูดจาก็รุนแรง (๔ พักร์) พูดไม่คิด ไม่คำนึงถึงความคุ้มค่า หากมองในแง่ธรรมชาติ พฤหัสมนฑ์ในราศีธาตุน้ำ อาจเกิดภัยพิบัติขึ้นได้อีกด้วย
ก๊กโจร
กลุ่มต่อมา คือดาวก๊กโจร ๓๖๗ ในราศี มังกร - กรกฎ - พฤษภ ดาวกลุ่มนี้เมื่อรวมตัวกันได้ ก็จะร่วมมือกันแบบโจร เช่นไปปล้น หรือไปทำเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบแบบแผน เรื่องสีเทาๆ ใต้โต๊ะ ใต้ดิน หวังผลแบบโลดโผน ในทำนองที่ว่าปล้นคืนเดียว ร่ำรวยเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน หรือเรื่องในทำนองนี้ ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมดาวเสาร์โคจรมนฑ์ ทำให้ก๊กโจรแตก การปล้นไม่สำเร็จเพราะแตกคอกันเอง อีกทั้งมีดาวเกตุร่วมราศีกับดาวเสาร์ เป็นตัวแทนผู้พิทักษ์ความสูงส่ง เช่น ตำรวจ ทางราชการ พวกตงฉิน มาขวางทางโจร ต้องระวังว่าการกระทำต่างๆ นั้นจะถูกจับถูกแฉได้
ก๊กวิญญาณ
ผ่านไปสองก๊กแล้ว อีกก๊กหนึ่งที่ดาวส่งแรงโยคถึงกันคือก๊กวิญญาณ ๕๙๐ ในราศี มังกร - มีน - พฤษภ กลุ่มคนเหล่านี้เมื่อรวมตัวกัน จะไปกระทำการในเรื่องความเชื่อ ความศรัทธา การอุทิศตนเพื่อการกุศล ทำเพื่อสาธารณประโยชน์ หลายคนฟังเช่นนี้แล้วก็อาจจะเกิดคำถามในใจว่า คนสายมู-ขมังเวทย์ก็เคยเห็นว่าเอารัดเอาเปรียบหลอกลวงหาผลประโยชน์จากผู้คนที่เดือดร้อน ไม่เห็นจะสูงส่งอย่างที่อธิบายในเรื่องก๊กวิญญาณ อาจารย์ก็ขออธิบายว่า คนที่มีความรู้แล้วใช้ในทางที่ผิด คิดคดเอาเปรียบผู้คนนั้นเป็นกลุ่มโจร ไม่ได้เป็นคนสายก๊กวิญญาณที่แท้จริง






