5. อันดับที่ห้า เรามาดูดวงดาวจรได้เกณฑ์ลักษณะพิเศษ (เสี้ยวจันทร์)
- ในช่วงที่ทำนาย เราจะ Focus แคบลงมาอีกนิดนึง คือช่วงวันที่ 23-29 เม.ย. 65 ดาวจรทั้งหมดจะจรอยู่ในสี่ราศี คือ มังกร-กุมภ์-มีน-เมษ เรียงร้อยกันได้เป็นลักษณะพิเศษ ซึ่งในทางโหราศาสตร์เรียกว่า “เสี้ยวจันทร์” ส่งแรงสนับสนุนกันอย่างต่อเนื่องโดยมีหัวและท้ายเสี้ยวจันทร์เป็นผู้กำกับสำคัญ เปรียบเหมือนหัวและท้ายของขบวนรถไฟที่เป็นตัวกำหนดทิศทางและจุดหมายของผู้โดยสารนั่นเอง
- เมื่อพิจารณาหัวและท้ายของเสี้ยวจันทร์จะเห็นดวงดาวจรปรากฏเป็น ๑๔๗๘๐ และ ๒ (ที่แยกจันทร์ออกมาเพราะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเหตุตามดาวที่กระทบ) ดวงดาวกลุ่มนี้ไม่เป็นก๊กเหล่าที่ชัดเจน ดาวในก๊กมีทั้งส่งเสริมและตัดทอนกำลังกัน จะเป็นศักดินา (๑๕๗) ก็ขาดความรู้ (๕); จะเป็นโจร (๓๖๗๘) ก็ขาดลิ่วล้อ (๓) และคนวางแผน (๖); ครั้นจะเป็นวิญญาณ (๕๘๙๐) ก็ขาดบุญ (๙) และคุณธรรม (๕) จึงไม่เห็นความเด่นชัดของการรวมตัวกันว่าจะเป็นบรรยากาศของเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
- เมื่อเราดูเป็นก๊กไม่ได้ ก็ต้องลงรายละเอียดแยกย่อยตามแต่ละดาว จะเห็นว่าดาวที่มีพลังสูงสุดในหัวท้ายเสี้ยวจันทร์นี้ ก็คือ ดาวเสาร์ เพราะได้คู่มิตรมีความยิ่งใหญ่ (๗๘) ที่ได้มาเองโดยไม่ต้องดิ้นรนขวนขวาย อยู่ๆ ก็เป็นเสือติดปีก (๗๐) การเจรจาต่อรองผลประโยชน์ ได้ผลดีเพราะมีคู่สมพล (๔๗) มีความสูงส่งเกิดขึ้น เพราะได้คู่ธาตุไฟ (๑๗) อีกทั้งอาทิตย์ได้ทำเนียบมหาอุจจ์ ช่วยยิ่งให้สูงส่งยิ่งขึ้น ได้เป็นผู้บริหารระดับสูง สำเร็จในวิทยาการขั้นสูง ทั้งหมดที่กล่าวในข้อนี้ส่งผลดีกับดาวเสาร์ ทำนายว่าท่านมีบุคลิกของดาวเสาร์ คือ คนร่างสูงใหญ่ รอบคอบ อดทน และมีความใจกล้าใจถึง จะได้รับผลที่ดีเช่นนี้
- ดาวเสาร์จรที่ราศีมังกร (ได้ทำเนียบเกษตร) อยู่ช่องสุดท้ายของเสี้ยวจันทร์ หมายถึง คนมีอิทธิพล คนใจกล้า ใจนักเลง เป็นคนสำคัญที่จะผลักดัน (ขับพล) ให้เกิดการเจรจาต่อรองผลประโยชน์ มีความยิ่งใหญ่และสูงส่งเกิดขึ้น
- ส่วนสถานการณ์ที่ชักนำไปคือดวงดาวในช่องแรกของเสี้ยวจันทร์ ๑๔๘๐ (นำพล) ทำนายว่าจะเกิดความทุ่มเทอย่างมาก (๑๔๘) ทุ่มสุดตัว การพิสูจน์ การถกเถียง โต้แย้ง การทะเลาะวิวาท (๔๘) การโยกย้ายเปลี่ยนแปลง (๑๘) การจัดแจงความวุ่นวายให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา (๐๘) เกิดการลงนามในสัญญา (๑๔) และในที่สุดจะเห็นความไม่คาดหวัง (๑๔๐) หรือช่างหัวมันปะปนอยู่ด้วยนั่นเอง