อุปนิษัท

อุปนิษัท

อุปนิษัท คือส่วนสรุปของพระเวทและด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่า เวทานตะ (ตอนจบของพระเวท)

คำว่าอุปนิษัทมีความหมายหลายนัยคือ: การนั่งใกล้ ความภักดี คำแนะนำที่ได้รับโดยการนั่งใกล้คุรุ (ซึ่งให้) การรับรองและชำระ (ความเศร้าโศก) การสอนความลับ และความรู้เรื่องภาวะสมบูรณ์ คำสอนนี้เป็นคำสอนระดับสูง เป็นคำสอนลึกลับที่เรียกว่า “รหัสวิทยา” ซึ่งเป็นการสอนความจริงแท้หรือสัจธรรม

คัมภีร์อุปนิษัทเป็นคัมภีร์ที่มีความเก่าแก่ แม้จะมีหลายคัมภีร์และขัดแย้งกันเองบ้าง แต่ทุกคัมภีร์มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการประกาศลัทธิ เอกเทวนิยม หรือ เอกนิยม คือ ทุกคนมีวิญญาณหรือ “อาตมัน” เป็นแก่นแท้ของชีวิต ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวกับวิญญาณสากลคือ “พรหมัน” อาตมันนี้ไม่มีเบื้องต้น อยู่ชั่วนิรันดร์ อยู่ทุกแห่งหน บริสุทธิ์อย่างสิ้นเชิง และเป็นสัจธรรมสูงสุด โลกมนุษย์และจักรวาลทั้งหมดเป็นการสำแดง (มายา) ของพรหม มนุษย์ทุกคนเป็นพรหมแต่เพราะอวิชชาจึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นตัวตนของตนเองขึ้นมา ดังนั้นเมื่อมนุษย์รู้ว่าตนเองคือพรหมันก็จะได้บรรลุโมกษะ ไม่ต้องทนทุกข์เวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป ; พรหมันก็คือพระเจ้าสูงสุดหรือปรมาตมัน ซึ่งเป็นวิญญาณสูงสุด สรรพสิ่งเป็นอาตมัน (พรหมัน) และจะกลับคืนสู่ “พรหมัน หรือ ปรมาตมัน” ซึ่งเป็นนิรันดร์เมื่อเขาตระหนักรู้ว่าเขาคือพรหมันก็จะบรรลุถึงโมกษะ

พระเวทมีการจำแนกประเภทกว้าง ๆ สี่ประเภท ได้แก่ ฤคเวท, ยชุรเวท, สามเวท และ อาถรรพเวท มีหลายสาขาในพระเวท แต่ละสาขามีกรรมขันธะ (ซึ่งเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์) ประกอบด้วยมนต์และพิธีพราหมณ์, การบูชา, การทำสมาธิ และการศึกษา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาของผู้ที่เดินเส้นทางฤๅษีและอาศัยอยู่ในป่าเพื่อการแสวงหาความรู้อย่างทุ่มเท) ; กล่าวกันว่าอุปนิษัทเป็นส่วนหนึ่งของ อารัญญะกะ (หนึ่งในกลุ่มงานเขียนศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดูที่แต่งขึ้นระหว่างพราหมณ์และอุปนิษัทและใช้ในพิธีกรรมตามพระเวท) นับตามดั้งเดิมพระเวททั้งสี่ได้รับการประมวลโดยท่านวยาสเป็น 1180 สาขา และแต่ละสาขามีอยู่ในอุปนิษัท ; ดังนั้นตามวิษณุปุราณะน่าจะมี 21 สาขา สำหรับฤคเวท, 109 สำหรับ ยชุรเวท, 1000 สำหรับ สามเวท และ 50 สำหรับ อาถรรพเวท ;

บางครั้งอุปนิษัทยังถูกรวบรวมเป็นกลุ่มตามหัวข้อดังนี้:

  1. อุปนิษัทหลัก สิบประการ ได้แก่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ที่เรียกเช่นนี้เพราะเป็นสิบลำดับในมุกติโคปนิษัทและค้นพบโดยอาจารย์ศรีสังกราจารย์
  2. สามัญอุปนิษัท: 14, 17, 24, 25, 30, 32, 33, 34, 35, 36, 42, 51, 57, 59, 61, 62, 69, 70, 71, 72, 73, 75 , 76, 94, 108 เรียกเช่นนี้เพราะ ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับคำสอนของผู้สนใจทั่วไป
  3. ไศวะอุปนิษัท : 12, 22, 23, 26, 28, 49, 50, 67, 85, 87, 88, 89, 93, 104 เรียกเช่นนี้เพราะเกี่ยวกับศิวะเป็นส่วนใหญ่
  4. ศักตอุปนิษัท : 45, 80. 81, 82, 84, 105, 106, 107 เรียกเช่นนี้เพราะเกี่ยวกับ ศักติ เป็นส่วนใหญ่
  5. ไวศนวอุปนิษัท : 18, 27, 52, 54, 55, 56, 68, 91, 95, 96, 100, 101, 102, 103 เรียกเช่นนี้เพราะเกี่ยวข้องกับวิษณุเป็นส่วนใหญ่
  6. โยคะอุปนิษัท: 15, 20, 21, 31, 37, 38, 39, 40, 41, 44, 46, 48, 53, 58, 63, 77, 86, 90,92, 98 เรียกเช่นนี้เพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่องโยคะ
  7. สนฺยาสอุปนิษัท : 11, 13, 16, 19, 29, 43, 47, 60, 64, 65, 66, 74, 78, 79, 83, 97, 99 เรียกเช่นนี้เพราะเกี่ยวกับการสันยาสเป็นส่วนใหญ่ (การละทิ้ง, สละ, หลุดพ้น)

พระเวทเหล่านี้ส่วนใหญ่สูญหายไปตามกาลเวลาและมีเหลืออยู่เพียง 108 รายชื่อ 108 อุปนิษัทมีอยู่ด้านล่างพร้อมแสดงอักษรย่อ (พระเวทที่แต่ละอุปนิษัทเกี่ยวข้อง) ได้แก่ R สำหรับ ฤคเวท, KY สำหรับ กฤษณะยชุรเวท, SY สำหรับ สุขาละ ยชุรเวท (KY และ SY เป็นสองเวอร์ชันของยชุรเวท, S สำหรับ สามเวท และ A สำหรับ อาถรรพเวท)

  1. Isavasya (SY) อีศ-อุปนิษทฺ หรือ อีศาวาสฺย-อุปนิษทฺ
  2. Kena (S) เกน-อุปนิษทฺ
  3. Katha (KY) กฐ-อุปนิษทฺ
  4. Prasna (A) ปฺรศฺน-อุปนิษทฺ
  5. Mundaka (A) มุณฺฑก-อุปนิษทฺ
  6. Mandukya (A) มาณฺฑูกฺย-อุปนิษทฺ
  7. Taittiriya (KY) ไตตฺติรีย-อุปนิษทฺ
  8. Aitareya (R) ไอตเรย-อุปนิษทฺ
  9. Chhandogya (S) ฉานฺโทคฺย-อุปนิษทฺ
  10. Brahadaranyaka (SY) พฤหทารณฺยก-อุปนิษทฺ
  11. Brahma (KY) พรหม-อุปนิษัท
  12. Kaivalya (KY) ไกวลฺย-อุปนิษัท
  13. Jabala (SY) ชาบาล-อุปนิษทฺ
  14. Svetasvatara (KY) เศฺวตาศฺวตร-อุปนิษทฺ
  15. Hamsa (SY) หมฺส-อุปนิษัท
  16. Arunika (S) อรุณิก-อุปนิษัท
  17. Garbha (KY) การภ-อุปนิษัท
  18. Narayana (KY) มหานารายณ-อุปนิษทฺ
  19. Paramahamsa (SY) ปรมหํสา-อุปนิษัท
  20. Amrtabindu (KY) อมฤตพินทุ-อุปนิษัท
  21. Amrtanada (KY) อมฤตนด-อุปนิษัท
  22. Atharvasira (A) อตฺถรวสิร-อุปนิษัท
  23. Atharvasikha (A) อตฺถรวสิข-อุปนิษัท
  24. Maitrayani (S) ไมตฺรายณีย หรือ ไมตฺรี-อุปนิษทฺ
  25. Kaushitaki (R) เกาษีตกี-อุปนิษทฺ หรือ ศางฺขายน-อุปนิษทฺ
  26. Brhajjabala (A) พฤหสฺจบล-อุปนิษัท
  27. Nrsimhatapini (A) นรสิงฺหตปนิ-อุปนิษัท
  28. Kalagnirudra (KY) กาลกฺนิรุทร-อุปนิษัท
  29. Maitreyi (S) ไมตรียิ-อุปนิษัท
  30. Subala (SY) สุพาล-อุปนิษทฺ
  31. Kshurika (KY) คชุริก-อุปนิษัท
  32. Mantrika (SY) มนฺตริก-อุปนิษัท
  33. Sarvasara (KY) สารวสร-อุปนิษัท
  34. Niralamba (SY) นิราลมฺบ-อุปนิษัท
  35. Sukharahasya (KY) สุขารหสฺย-อุปนิษัท
  36. Vajrasuchi (S) วาจรสูจิ-อุปนิษัท
  37. Tejobindu (KY) เตโชพินฺท-อุปนิษัท
  38. Nadabindu (R) นาฎพินธุ-อุปนิษัท
  39. Dhyanabindu (KY) ธยานพินทุ-อุปนิษัท
  40. Brahmavidya (KY) พรหมวิทฺย-อุปนิษัท
  41. Yogatattva (KY) โยคตตฺว-อุปนิษัท
  42. Atmabodha (R) อตมโบธ-อุปนิษัท
  43. Narada-parivrajaka (A) นารท-ปาริวรจกฺก-อุปนิษัท
  44. Trisikhibrahmana (SY) ตรีสิขพรหฺมณ-อุปนิษัท
  45. Sita (A) สิตา-อุปนิษัท
  46. Yogachudamani (S) โยคชุธามานิ-อุปนิษัท
  47. Nirvana (R) นิรวาน-อุปนิษัท
  48. Mandalabrahmana (SY) มนฺดาลาพรหฺมณ-อุปนิษัท
  49. Dakshinamurti (KY) ทกฺษิณมูรติ-อุปนิษัท
  50. Sarabha (A) สารภ-อุปนิษัท
  51. Skanda (KY) สกนฺท-อุปนิษัท
  52. Tripadvibhutimahanarayana (A) ตรีปทวิภูติมหานารายณ-อุปนิษัท
  53. Advayataraka (SY) อตฺวายตารก-อุปนิษัท
  54. Ramarahasya (A) รามรหสฺย-อุปนิษัท
  55. Ramatapini (A) รามตาปินิ-อุปนิษัท
  56. Vasudeva (S) วสุเทว-อุปนิษัท
  57. Mudgala (R) มุดกาล-อุปนิษัท
  58. Sandilya (A) สนฺดิลฺย-อุปนิษัท
  59. Paingala (SY) ปอินฺกาล-อุปนิษัท
  60. Bhikshuka (SY) ภิกฺศุข-อุปนิษัท
  61. Mahat (S) มหตฺ-อุปนิษัท
  62. Sariraka (KY) สาริราค-อุปนิษัท
  63. Yogasikha (KY) โยคสิข-อุปนิษัท
  64. Turiyatita (SY) ตุริยติต-อุปนิษัท
  65. Sannyasa (S) สนฺยาส-อุปนิษัท
  66. Paramahamsaparivrajaka (A) ปรมหํส-อุปนิษทฺ
  67. Akshamala (R) อกฺศมาล-อุปนิษัท
  68. Avyakta (S) อวิยากต-อุปนิษัท
  69. Ekakshara (KY) เอกกฺชาร-อุปนิษัท
  70. Annapurna (A) อนฺนาปุราณ-อุปนิษัท
  71. Surya (A) สุรย-อุปนิษัท
  72. Akshi (KY) อคศิ-อุปนิษัท
  73. Adhyatma (SY) อธฺยาตม-อุปนิษัท
  74. Kundika (S) กุนฺทิก-อุปนิษัท
  75. Savitri (S) สาวิตรี-อุปนิษัท
  76. Atma (A) อาตฺม-อุปนิษัท
  77. Pasupatabrahma (A) ปสุปตพรหฺม-อุปนิษัท
  78. Parabrahma (A) พาราพรหฺม-อุปนิษัท
  79. Avadhuta (KY) อาวธุตะ-อุปนิษัท
  80. Tripuratapini (A) ตรีปุรตปินิ-อุปนิษัท
  81. Devi (A) เทวี-อุปนิษัท
  82. Tripura (R) ตรีปุร-อุปนิษัท
  83. Katharudra (KY) คาธรุทร-อุปนิษัท
  84. Bhavana (A) ภาวนา-อุปนิษัท
  85. Rudrahrdaya (KY) รุทรหฤทย-อุปนิษัท
  86. Yogakundalini (KY) โยคกุนฺฑาลินี-อุปนิษัท
  87. Bhasmajabala (A) ภสฺมาจบาล-อุปนิษัท
  88. Rudrakshajabala (S) รุทรกฺษจบาล-อุปนิษัท
  89. Ganapati (A) คณปติ-อุปนิษัท
  90. Jabaladarsana (S) จาบาลทรรศน-อุปนิษัท
  91. Tarasara (SY) ตารสาร-อุปนิษัท
  92. Mahavakya (A) มหาวรรคย-อุปนิษัท
  93. Panchabrahma (KY) ปญฺจพรหม-อุปนิษัท
  94. Pranagnihotra (KY) ปราณาคนิโหตร-อุปนิษัท
  95. Gopalatapini (A) โกปาลตาปินิ-อุปนิษัท
  96. Krishna (A) กฤษณ-อุปนิษัท
  97. Yajnavalkya (SY) ยญฺญวลฺคย-อุปนิษัท
  98. Varaha (KY) วราห-อุปนิษัท
  99. Satyayani (SY) สตฺยยานี-อุปนิษัท
  100. Hayagriva (A) หยากรีว-อุปนิษัท
  101. Dattatreya (A) ทตฺตาตรีย-อุปนิษัท
  102. Garuda (A) การุด-อุปนิษัท
  103. Kalisantarana (KY) กาลิสนฺตราน-อุปนิษัท
  104. Jabali (S) จาบลี-อุปนิษัท
  105. Saubhagyalakshmi (R) เสาภคยลกฺษมี-อุปนิษัท
  106. Sarasvatirahasya (KY) สรสฺยาตรีรหสฺย-อุปนิษัท
  107. Bahvrchi (R) พาหวรชิ-อุปนิษัท
  108. Muktika (SY) มุกฺติก-อุปนิษัท

อ้างอิงจาก: The Ribhu Gita First English Translation from the Original Sanskrit Indian Epic Sivarahasya by Dr. H. Ramamoorthy Assisted by Master Nome; ตำราปรัชญาอินเดียสมัยโบราณ โดย รศ.นงเยาว์ ชาญณรงค์

สรรพสิ่งคือ "อาตมัน"

ปรัชญามีมางสา เป็นการวิเคราะห์ภาคแรกของคัมภีร์พระเวท

ปรัชญาเวทานตะหรืออุตาระ เป็นการวิเคราะห์ภาคหลังของคัมภีร์พระเวท เป็นการรวบรวมและเริ่มต้นศาสนาฮินดู

ปรัชญานยายะ เป็นปรัชญาที่เน้นหลักตรรกวิทยา

ปรัชญาไวเศษิกะ เป็นวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ มีการกล่าวถึงเรื่อง อะตอม และปรมาณู

สางขยะ

ปรัชญาสางขยะ เป็นการหาเหตุผลในการวิเคราะห์ธรรมชาติ

โยคะ

ปรัชญาโยคะ เป็นวิธีการบำเพ็ญสมาธิ