อวธูตะ คีตา บทที่ ๗
रथ्याकर्पटविरचितकन्थः
पुण्यापुण्यविवर्जितपन्थः ।
शून्यागारे तिष्ठति नग्नो
शुद्धनिरञ्जनसमरसमग्नः ॥ १॥
1. The Avadhuta wears a patched garment made of rags cast off by the side of the street. He walks a path which is free from virtue and vice. Absorbed in the pure, unpolluted bliss of Brahman, the carefree mendicant lives in a deserted place.
1. อวธูตะผู้สวมใส่เสื้อผ้าปะต่อจากผ้าขี้ริ้วที่ทิ้งข้างถนน. พระองค์ดำเนินบนหนทางที่ปราศจากคุณธรรมและความชั่ว. ดื่มด่ำในความบริสุทธิ์, มีความสุขจากภายในโดยไร้มลพิษในพรหมัน, เป็นนักบวชผู้ไร้กังวลพักพิงในวิเวกสถาน.
लक्ष्यालक्ष्यविवर्जितलक्ष्यो
युक्तायुक्तविवर्जितदक्षः ।
केवलतत्त्वनिरञ्जनपूतो
वादविवादः कथमवधूतः ॥ २॥
2. The signs of the Avadhuta may or may not be visible. Although he is beyond right and wrong, he is absolutely honest. His real nature is perfect, pure, and spotless. How is it possible for such an illumined soul to become involved in arguments and disputations?
2. อาจสังเกตเห็นอวธูตะหรือไม่เห็นก็ได้. แม้พระองค์อยู่เหนือถูกและผิด, พระองค์เปิดเผยอย่างสมบูรณ์. ธรรมชาติที่แท้จริงของพระองค์นั้นสมบูรณ์แบบ, บริสุทธิ์, และไร้มลทิน. แล้วจะเป็นไปได้หรือ ที่วิญญาณอันสว่างไสวเช่นนั้นจะมีส่วนร่วมในการถกเถียงและการโต้แย้ง?
आशापाशविबन्धनमुक्ताः
शौचाचारविवर्जितयुक्ताः ।
एवं सर्वविवर्जितशान्ता -
स्तत्त्वं शुद्धनिरञ्जनवन्तः ॥ ३॥
3. The Avadhuta is free from the captivating trap of desire. Shunning physical tidiness and social niceties, he is absorbed in the Supreme Spirit. Thus, renouncing everything, he becomes one with the pure, stainless Brahman.
3. อวธูตะเป็นอิสระจากกับดักแห่งความปรารถนาอันดึงดูดใจ. หน่ายหนีต่อความเรียบร้อยทางกายภาพ และ นิสัยที่ดีทางสังคม, พระองค์ดื่มด่ำในวิญญาณสูงสุด. ครั้นสละทุกสิ่งแล้ว, พระองค์กลายหนึ่งเดียวความบริสุทธิ์, พรหมันอันไร้มลทิน.
कथमिह देहविदेहविचारः
कथमिह रागविरागविचारः ।
निर्मलनिश्चलगगनाकारं
स्वयमिह तत्त्वं सहजाकारम् ॥ ४॥
4. In this state of realization, how can the Avadhuta consider whether he has a body or not, or whether he has attachment or not? He himself is the immaculate, immovable, innate Reality—infinite as space.
4. ในสภาวะรู้แจ้งนี้, อวธูตะจะพิจารณาว่าพระองค์มีร่างกายหรือไม่มี, พระองค์มีความผูกพันหรือไม่ ได้อย่างไร? พระองค์เองคือความบริสุทธิ์, ไม่เคลื่อนไหว, เป็นสัจธรรมโดยกำเนิด – เป็นอนันต์เช่นที่ว่างในอวกาศ.
कथमिह तत्त्वं विन्दति यत्र
रूपमरूपं कथमिह तत्र ।
गगनाकारः परमो यत्र
विषयीकरणं कथमिह तत्र ॥ ५॥
5. In this state of realization, how and where can one know the Reality? How can there be any form or formlessness? When the Supreme Reality is all-pervading like space, how can one objectify It?
5. ในสภาวะรู้แจ้งนี้, เราจะรู้ถึงสัจธรรมได้อย่างไรและที่ไหน? จะมีรูปหรือไร้รูปอย่างไร? เมื่อสัจธรรมสูงสุดแผ่ซ่านไปทั่วเหมือนอวกาศ, เราจะเห็นมันได้อย่างไร?
गगनाकारनिरन्तरहंस -
स्तत्त्वविशुद्धनिरञ्जनहंसः ।
एवं कथमिह भिन्नविभिन्नं
बन्धविबन्धविकारविभिन्नम् ॥ ६॥
6. Brahman is all-pervading like space, and Its essential nature is pure and spotless. Therefore, how can there be division and multiplication, bondage and liberation, and various other modifications in It?
6. พรหมันแผ่ซ่านไปทั่วเหมือนห้วงอวกาศ, แก่นแท้ตามธรรมชาติของมันบริสุทธิ์และไร้มลทิน. ดังนั้น, มันจะแบ่งหรือทวีคูณ, มีพันธะหรือหลุดพ้น, และดัดแปลงไปต่างๆ นานา ได้อย่างไร?
केवलतत्त्वनिरन्तरसर्वं
योगवियोगौ कथमिह गर्वम् ।
गर्वम् एवं परमनिरन्तरसर्व -
मेवं कथमिह सारविसारम् ॥ ७॥
7. The Absolute Brahman pervades all equally. How can one feel union or separation there? Since the Supreme Brahman is identical in all, how can there be any variation of strength or weakness?
7. พรหมันสมบูรณ์แผ่ซ่านไปโดยเท่าเทียมกัน. เราจะรู้สึกว่ารวมเข้าหรือแยกออกได้อย่างไร? เพราะพรหมันสูงสุดเหมือนกันหมด, แล้วจะมีการผันแปรของความแข็งแรงหรืออ่อนแอได้อย่างไร?
केवलतत्त्वनिरञ्जनसर्वं
गगनाकारनिरन्तरशुद्धम् ।
एवं कथमिह सङ्गविसङ्गं
सत्यं कथमिह रङ्गविरङ्गम् ॥ ८॥
8. The Absolute Brahman shines equally in all. It is clear and all-pervasive like space. Truly, how can there be any friendship or enmity, mirth or misery in It?
8. พรหมันสมบูรณ์ส่องสว่างโดยเท่าเทียมกัน. มีความชัดเจนและแผ่ซ่านไปทั่วเหมือนห้วงอวกาศ. อันที่จริงแล้ว, จะมีมิตรภาพหรือความเป็นศัตรู, รื่นเริงหรือทุกข์ยาก ในพรหมัน ได้อย่างไร?
योगवियोगै रहितो योगी
भोगविभोगै रहितो भोगी ।
एवं चरति हि मन्दं मन्दं
मनसा कल्पितसहजानन्दम् ॥ ९॥
9. The Avadhuta may or may not observe the rules of yoga; still he is a yogi. He may or may not have any possessions; still he is an enjoyer. Indeed, he moves slowly and calmly, and enjoys the natural bliss arising from his own pure mind.
9. อวธูตะ อาจหรือไม่อาจปฏิบัติตามกฎของโยคะ; พระองค์ยังคงเป็นโยคี. พระองค์อาจครอบครองหรือไม่ครอบครองทรัพย์ใดๆ; พระองค์ยังคงเกษมสำราญ. อันที่จริง, พระองค์เคลื่อนไหวช้าและสงบ, และเป็นเพลิดเพลินกับความสุขตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากจิตใจที่บริสุทธิ์ของพระองค์เอง.
बोधविबोधैः सततं युक्तो
द्वैताद्वैतैः कथमिह मुक्तः ।
सहजो विरजः कथमिह योगी
शुद्धनिरञ्जनसमरसभोगी ॥ १०॥
10. As long as a person has both knowledge and ignorance, and a sense of duality and nonduality, how can he be liberated? Why should one who always enjoys the pure, unadulterated bliss of Brahman, and whose innate nature is free from desire and ignorance, try to be a yogi?
10. ตราบใดที่บุคคลมีทั้งความรู้และอวิชชา, และรู้สึกถึงความเป็นคู่และความไม่เป็นคู่, แล้วเขาจะหลุดพ้นได้อย่างไร? เหตุใดผู้ที่มีความสุขในความบริสุทธิ์, อันเป็นสุขของพรหมันที่มิได้เจือปน, และธรรมชาติโดยกำเนิดของเขาปราศจากความปรารถนาและอวิชชา, จึงพยายามเป็นโยคี?
भग्नाभग्नविवर्जितभग्नो
लग्नालग्नविवर्जितलग्नः ।
एवं कथमिह सारविसारः
समरसतत्त्वं गगनाकारः ॥ ११॥
11. As It is beyond whole and part, there is no division in Brahman. Brahman is not attached to anything because It is beyond attachment and nonattachment. Since It is all-pervading existence, like space, how can there be any contraction or expansion?
11. เพราะพรหมันอยู่เหนือทั้งหมดและบางส่วน, จึงไม่มีการแบ่งแยกในพรหมัน. พรหมันไม่ยึดติดกับสิ่งใด เพราะมันอยู่เหนือการยึดติดและการไม่ยึดติด. เนื่องจากมันมีอยู่และแผ่ซ่านไปทั่ว, เหมือนห้วงอวกาศ, แล้วจะมีการหดหรือขยายตัวได้อย่างไร?
सततं सर्वविवर्जितयुक्तः
सर्वं तत्त्वविवर्जितमुक्तः ।
एवं कथमिह जीवितमरणं
ध्यानाध्यानैः कथमिह करणम् ॥ १२॥
12. Renouncing everything, the Avadhuta is always united with Brahman. Transcending all elements, he is free. How can there be either life or death for him? What does it matter whether he practises meditation or not?
12. ปล่อยวางทุกสิ่ง, อวธูตะเป็นหนึ่งเดียวกับพรหมันตลอดกาล. อยู่เหนือธาตุทั้งหมด, พระองค์เป็นอิสระ. แล้วจะมีชีวิตหรือความตายสำหรับพระองค์ได้อย่างไร? การปฏิบัติสมาธิหรือไม่จะมีความสำคัญต่อพระองค์ได้อย่างไร?
इन्द्रजालमिदं सर्वं यथा मरुमरीचिका ।
अखण्डितमनाकारो वर्तते केवलः शिवः ॥ १३॥
13. This whole world is an illusion, like a mirage in a desert. The indivisible, formless Supreme Beatitude alone exists.
13. โลกทั้งใบนี้คือมายา, เหมือนภาพลวงตาในทะเลทราย. ความสุขสูงสุดอันไร้รูปและแบ่งแยกไม่ได้เท่านั้นที่ดำรงอยู่.
धर्मादौ मोक्षपर्यन्तं निरीहाः सर्वथा वयम् ।
कथं रागविरागैश्च कल्पयन्ति विपश्चितः ॥ १४॥
14. We, the Avadhutas, never desire righteousness, wealth, enjoyment, or liberation. How then do the scholars imagine that we have attachment or detachment?
14. เรา, ชาวอวธูตะ, ไม่เคยปรารถนาความชอบธรรม, ความมั่งคั่ง, ความเพลิดเพลิน, หรือการหลุดพ้น. แล้วปราชญ์จะจินตนาการว่าเรายึดติดหรือไม่ยึดติดได้อย่างไร?
विन्दति विन्दति न हि न हि यत्र
छन्दोलक्षणं न हि न हि तत्र ।
समरसमग्नो भावितपूतः
प्रलपति तत्त्वं परमवधूतः ॥ १५॥
15. Where the intellect cannot reach, how can there be any form of composition? The great Avadhuta, after purifying himself through meditation and becoming absorbed in Infinite Bliss, has sung spontaneously about Brahman.
15. ในที่ที่ปัญญาไปไม่ถึง, แล้วจะมีรูปแบบต่างๆ ได้อย่างไร? อวธูตะ ผู้ยิ่งใหญ่, หลังจากชำระตนด้วยการทำสมาธิและดื่มด่ำในนิรามิสสุขอนันต์แล้ว, ได้ขับขานถึงพรหมันอย่างเป็นธรรมชาติ.
इति सप्तमोऽध्यायः ॥ ७॥
Here ends the seventh chapter of the Avadhuta Gita of Dattatreya—the Swami’s instructions to. Kartika entitled “Self-Knowledge.”
จบบทที่เจ็ดของ อวธูตะ คีตา แห่งทัตตะเตรยะ ในหัวข้อ – คำสอนของสวามีที่แนะนำกฤติกา เรื่อง “ความรู้เรื่องอาตมัน”